จิน BTS
เเฟนทั่วทั้งโลกฮือฮา ซุปตาร์ชายหนุ่มคนนี้จัดแจงตั้งบริษัทไวน์เป็นของตัวเอง

เป็นหนึ่งใน สมาชิก ของ BTS สำหรับพี่ใหญ่อย่าง จิน BTS โดยเมื่อวันที่ 13 เดือนธันวาคม 2022 เขาได้ เข้ากรมรับใช้ชาติ อย่างไรก็ตามจิน ได้รับความสนใจ จาก สื่อหลัง จากมี กล่าวว่าเขา ได้ริเริ่มตั้งขึ้นโรงกลั่นไวน์ของตนเอง รวมทั้งทำไวน์ของตัวเอง

ก่อนหน้านี้ จิน ได้เจอกับ เชฟแบคจงวอน ในรายการ The Drunken Truth ทางช่อง BANGTANTV และก็ได้เจอกับ พัครกดัม ผู้ที่มีความชำนาญด้านการ หมักเบียร์ เขาได้สัมผัส กับ วงการนี้ แล้วก็ชอบพอไวน์เกาหลี หรือ มีเรียกว่า มักกอลลี

คิมซอกจิน

สื่อเกาหลีแถลงการณ์ว่า จินตั้งบริษัท

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของตนเอง และก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการกลั่นไวน์ บริษัทนี้จะลงทะเบียนในชื่อของเขา สำหรับเอกสารตามกฎหมายจะถูกดำเนินการตามขั้นตอนในระหว่างที่เขาอยู่ในกองทัพ แล้วก็เมื่อเขาเสร็จสิ้นภารกิจจากกองทัพ
ในเวลานั้นไวน์ของเขาก็บางทีก็อาจจะพร้อมดื่มแล้ว

พี่จิน BTS

Jin วง BTS เสร็จสิ้นการฝึกทหารเบื้องต้นแล้ว พร้อมเผยว่าเขากำลังสนุกกับการฝึกฝน

Jin พี่ใหญ่แห่งวง BTS เข้ากรมทหารรับใช้ชาติเป็นคนแรกของวงไปตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคมปีที่แล้ว

แล้วก็ปัจจุบันเขาก็ได้โพสต์อัปเดตชีวิตในกรมของตนเองให้เหล่า ARMY ได้คลายความคิดถึง

Jin โพสต์ภาพพร้อมใจความถึงแฟนๆผ่าน Weverse หลังจากที่ใช้เวลา 5 อาทิตย์ที่ผ่านมาฝึกฝนการทหารเบื้องต้นเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยเขาได้แชร์ทั้งยังภาพเซลฟีสดใสและภาพที่ตนเองยืนตัวตรงอยู่ในชุดเครื่องแบบทหารเต็มยศ แล้วก็แน่นอนว่าไม่ลืมที่จะสวมหน้ากากอนามัย โดยเขาเขียนเนื้อความว่า

“ผมกำลังสนุกเลยครับ ผมโพสต์ภาพนี้หลังได้รับการอนุญาตจากกรมทหารแล้ว มีความสุขอยู่ตลอดและใช้ชีวิตกันดี ๆ นะ ARMY”

หลังจากที่ Jin โพสต์ภาพแล้วก็ข้อความ ดังกล่าวแล้ว ชาว ARMY ทั่วทั้งโลกต่าง ก็ออกมาแสดงความเห็น กับส่งความรัก แล้วก็กำลังใจ ให้กับ Jin ในโลกโซเชียลมีเดีย กัน อย่างล้นหลาม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน แพลตฟอร์ม Twitter ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาหลักสำคัญเรื่องการ เข้ากรมของ 7 หนุ่มวง BTS ก็เป็นที่แย้งกัน มาโดย ตลอด ว่า พวกเขาสามารถ ที่จะ รับใช้ชาติ ในรูปแบบอื่นที่ ไม่ใช่การเกณฑ์ทหารได้บ้าง หรือไม่ รวมทั้งหลังจากที่ได้รับ การผ่อนผันมานับเป็นเวลาหลายปี ในที่สุด Jin ในวัย 30 ปี ก็ต้องเข้ากรมรับใช้ชาติ อย่างเป็นทางการ เป็นคนแรกของวง โดยเขาได้ ทำหน้าที่ เป็นผู้ช่วยครู ที่ กองทัพยอนชอน แห่งเมืองคยองกี ประเทศเกาหลีใต้

JIN Worldwide handsome

จิน พี่ใหญ่แห่ง BTS พี่ใหญ่เจ้าของฉายา Worldwide handsome

ที่มากด้วยความสามารถและก็เสน่ห์เหลือแหล่

  • จิน พี่ใหญ่แห่ง BTS คิม ซอกจิน (เกาหลี: 김석진; เกิด 4 ธ.ค. คริสต์ศักราช 1992)
  • มีชื่อในวงการว่า จิน (JIN) เป็นนักร้อง นักแต่งเพลงชาวเกาหลีใต้
  • เขาเป็นสมาชิกที่มีอายุมากที่สุดของบอยแบนด์เกาหลีใต้ BTS เขาเข้าร่วมกลุ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2013
  • จินได้ร่วมเขียนเพลงและปล่อยผลงานเพลงเดี่ยวในนามวง BTS ดังเช่นว่า เพลง” Awake ” (2016), ” Epiphany ” (2018) และ ” Moon ” (2020) นอกเหนือจากนี้
  • เขายังเป็นผู้ออกแบบตัวละคร RJ ตัวละครในกลุ่ม BT21 ของ Line Friends
  • เขาอาศัยอยู่ที่นั่นก่อนที่จะย้ายไปอยู่ในบันกีดง(Bangi – dong), ซงพากู (Songpa – gu) รวมทั้ง โซล (Seoul) ตามลำดับ
  • ครอบครัวประกอบด้วยสมาชิก 4 คน คือ พ่อ แม่ พี่ชาย และก็จิน
  • ในสมัยมัธยมเขาเคย ถูกทาบทามให้เข้าร่วม กับ สังกัดเอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนต์ แต่เขาปฏิเสธเพราะรู้สึกว่าเป็นมิจฉาชีพ
  • จินมีเป้าหมายที่จะเป็นนักแสดงทำให้เขาเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยคอนกุก (Konkuk University) สาขาวิชาภาพยนตร์ ต่อมาหลังเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยจึงได้ถูกบิกฮิตเอนเตอร์เทนเมนต์ทาบทามเข้าร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิ
แบมแบม Got7
แบมแบม รับเคยต้องการออกจากวงการหลังหมดสัญญาJYP

แบมแบม Got7 ได้มาเป็นแขกรับเชิญชวนในรายการทอล์คโชว์ ‘Radio Star’ ของช่อง MBC

ในขณะที่กล่าวคุยกัน พิธีกรได้กล่าวถึง แบมแบม

ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
หลังจากที่เขาเผยตัวในรายการออกเดท ‘Transit Love 2′ ของ TVING ที่ออกอากาศเมื่อปีที่แล้ว

BamBamเข้าร่วมครั้งแรกในฐานะพิธีกรพิเศษ แต่แล้วต่อจากนั้นเขาก็กลายเป็นพิธีกรถาวรในรายการ ‘Transit Love 2′
หลังจากที่ทักษะการแสดงความเห็นที่ตรงไปตรงมารวมทั้งตลกของเขากลายเป็นที่พูดถึงบนอินเทอร์เน็ต

แบมแบม

BamBam กล่าวว่า

“ผมรู้สึกขอบคุณมากครับ ขอบคุณรายการ ‘Transit Love 2′ ตอนนี้ผมถูกเรียกตัวจากหลายที่ในเกาหลี ผมรู้สึกราวกับว่าผมเกิดใหม่ อีกครั้งหลังจากรายการ ‘Transit Love 2′ ครับ พูดตามตรงนะ ผมรู้สึกเหมือนผมหมดสิ้นกับวงการนี้แล้วหลังจากหมดสัญญากับค่าย JYP Entertainment ครับ ผมแค่เบื่อกับการพยายามอีกต่อไป คุณรู้ไหมครับ ผมค่อนข้างได้รับการยอมรับ นอกประเทศเกาหลีใต้แต่ดูเหมือนไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นใครในประเทศเกาหลีครับ

ผมเฝ้าถามตัวเองว่า มีปัญหาอะไร ทำอย่างไรผมถึงจะได้รับการยอมรับที่นี่แม้ว่าผมจะพยายามอย่างหนักก็ตาม’ ผมรู้สึกผิดหวังมากเกี่ยวกับเรื่องนั้นครับ ผมคิดจริงๆ ว่าจะเลิกทุกอย่างในตอนนั้นครับ และนั่นคือตอนที่ค่ายหนึ่งติดต่อผม พวกเขาโทรหาผมประมาณ 5 ครั้งเพื่อเกลี้ยกล่อมให้ผมเซ็นสัญญากับพวกเขาครับ แต่ผมปฏิเสธพวกเขาทุกครั้งครับ

ในระหว่างการสนทนาครั้งที่ 6 ของเรา พวกเขาพูดกับผมว่า ‘คุณเดบิวต์ในเกาหลี แต่คุณยังไม่เป็นที่รู้จักในเกาหลีมากนัก ไม่รู้สึกเศร้าเหรอ? .’ ราวกับว่าพวกเขาอ่านใจผมออกเพราะค่ายอื่นๆ พยายามใช้ผมเพื่อขยายตัวเองไปยังประเทศต่างๆนอกจากประเทศเกาหลี ดูเหมือนค่ายปัจจุบันของผมจะรู้ว่าผมต้องการอะไร ผมเลยพูดว่า ‘โอเคครับ ผมจะลองดูซักครั้งครับ’

ผมบอกพวกเขาว่า ‘ถ้าผมพยายามมาสักปีหนึ่งแล้ว แต่ไม่เห็นความคืบหน้าใดๆ ผมก็จะลาออกจากวงการนี้ครับ’ แต่ต้องขอบคุณที่รายการ ‘Transit Love 2′ ทำได้ดีมาก และผมสามารถแสดงชื่อของตัวเองได้ ผมขอบคุณต้นสังกัดและรายการ ‘Transit Love 2′ ครับ สำหรับเรื่องนั้น”

แบมแบม วงGot7

ประวัติ “BamBam” ชายหนุ่มหล่อก็อตเซเวน ดีกรีเรียนเก่งเกรดระดับ 3.24

เรียกว่าเป็นหนุ่มไทยสุดคูลที่ไปสร้างชื่อเสียงที่ประเทศเกาหลีรวมทั้งระดับโลกเลยทีเดียว
สำหรับ แบมแบม กันต์พิมุกต์ หรือ BamBam Got7 หนุ่มหน้าใสที่สะดุดตาอีกทั้งการร้องแล้วก็เต้น หนึ่งในสมาชิกบอยแบนด์ ก็อตเซเวน
ที่ไม่ได้มีแต่เรื่องงานบันเทิงเพียงแต่อย่างเดียว แต่งเรื่องเรียนเขาก็ไม่ทิ้ง และก็ที่สำคัญเขายังทำได้ดีมาก ๆ อีกด้วย

ประวัติBamBam
มีชื่อจริงว่า กันต์พิมุกต์ ภูวกุล
เกิดวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2540
รู้จักกันในชื่อBamBam ก็อตเซเวน
ภูมิลำเนาเป็นคนกรุงเทพมหานคร
ศึกษาที่โรงเรียนปราโมชวิทยารามอินทรา
จบการศึกษาระดับมัธยมจาก การศึกษานอกระบบ (กศน.)
IG : bambam1a

BamBamเกิดในครอบครัวที่มีพี่น้อง 4 คน

เขาเป็นลูกคนที่สาม มีพี่ชาย 2 คน และก็ น้องสาว 1 คน สมัยที่เขายังเด็กนั้นเขาชอบพอและหลงรักวัฒนธรรม K-Pop เป็นอย่างมาก รวมทั้งเต้นคัฟเวอร์ศิลปินเกาหลีมาตั้งแต่เป็นเด็ก
โดยเขาเคยเข้าประกวด Rain Cover Dance In Thailand ในตอนที่เขาอายุได้ 10 ปี แล้วก็คว้าตำแหน่งรางวัลอันดับ 2 มาแล้ว
โดยในเวลานั้นเขาเป็นสมาชิกทีม WE ZAA COOL ทีมี ลิซ่า BLACKPINK เป็นหนึ่งในทีมด้วย

แบมแบม กันต์พิมุกต์

หลังจากนั้น แบมแบม ก็ได้เข้ารับการเป็นเด็กฝึก

ใน ค่ายเจวายพีเอนเตอร์เทนเมนต์ เป็นเวลาสามปีครึ่ง ก่อนที่ จะเปิดตัว เป็น 1 ในสมาชิก วงก็อตเซเวน ซึ่ง เป็นวงบอยแบนด์ ที่ ได้รับความนิยมชมชอบ ทั้งยัง ใน ประเทศเกาหลี และระดับโลก เนื่องมาจาก BamBam เป็นศิลปิน ที่ ทำงาน ในประเทศเกาหลี แต่เขาก็ไม่ทิ้งเรื่องการเรียน โดยเขาศึกษาการศึกษานอกระบบ (กศน.) รวมทั้งจบการศึกษาด้วยเกรดเฉลี่ย 3.24 ส่วนตัวBamBam พูดได้ถึง 3 ภาษา คือภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และก็ภาษาเกาหลี รวมทั้งมีผลงานทั้งประเทศไทย แล้วก็ เกาหลี

BI
B.I (บีไอ) พร้อมกลับมามอบความสนุก เปิดฉากทวีปเอเชียทัวร์ใน “ไทย” เป็นที่แรก ปักหมุดเจอกัน 4 มี.ค. นี้!

หนุ่มหล่อฝีมือยอดเยี่ยม ดีกรีโปรดิวเซอร์แห่งวงการ K-POP อย่าง บีไอ (B.I) หรือ คิมฮันบิน เตรียมบินลัดฟ้ากลับมามอบความสนุกให้กับเหล่าไอดีไทยอีกที! พร้อมเปิดฉากจัดเอเชียทัวร์ใน “ไทย” เป็นที่แรก ในงาน B.I 2023 ASIA TOUR “L.O.L THE HIDDEN STAGE” คอนเฟิร์มมาแน่ 4 มีนาคมนี้

บีไอ

โดยเมื่อวันที่ 23 มกราคม ทาง บีไอ (B.I) ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ

พร้อมปล่อยภาพโปสเตอร์เอเชียทัวร์ที่จะเกิดขึ้นในปี 2023
ซึ่งได้รับการการันตีทั้งหมด 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเชีย และ สิงคโปร์ ตามลำดับ ดังนี้

4 มีนาคม – กรุงเทพฯ ประเทศไทย
5 มีนาคม – มะนิลา ฟิลิปปินส์
10 มีนาคม – จาการ์ตา อินโดนีเซีย
19 มีนาคม – สิงคโปร์

สำหรับงานในประเทศไทย ได้มีการระบุวันรวมทั้งสถานที่จัดงาน

ว่างานจะจัดขึ้นในวันที่ 4 มีนาคมนี้ ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวจากทางโซเชียลเน็ตเวิร์คของผู้จัด Four One One Entertainment (โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) ซึ่งคาดว่ารายละเอียดต่าง ๆ จะถูกประกาศออกมาให้ได้ทราบกันในเร็ว ๆ นี้

บีไอ ถือเป็นนักแสดง K-POP มากความสามารถ

ที่น่าจับตามอง ทั้งยังเจ้าตัวยังพิสูจน์ความถนัดต่าง ๆ เหล่านี้ ผ่านการโปรดิวซ์เพลงอันสะดุดตา รวมทั้งเคยคว้ารางวัล นักแต่งเพลงแห่งปีจากงาน Melon Music Awards 2018 ซึ่งนับเป็นเครื่องการันตีความสามารถอันเยี่ยมที่สุด อีกทั้งสไตล์การแร็ปและการร้องเพลงยังเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ในปีที่ผ่านมา บีไอ ได้ปล่อยผลงานเพลง ‘BTBT’ ที่ฟีทเจอริ่งกับ Soulja Boy แล้วก็ Devita รวมทั้งร่วมงานกับ ชู LOONA ในซิงเกิลคอลแลป ‘Lullaby’ ในโปรเจกต์พิเศษของ Dingo Music

ฟ้าหลังฝน! ย้อนรอยชีวิตเกือบจะดิ่งลงเหวของ B.I กับทางใหม่ที่สดใสกว่าเดิม

วันที่ 9 มิถุนายน 2019 ข่าวร้ายข่าวเร่งด่วนตีแสกหน้าค่ายดังอย่าง YG กระเทือนศิลปินไอดอลวง iKON รวมทั้งผ่าลงกลางศีรษะของ ‘B.I’ หรือ ‘Kim Hanbin’ หนึ่งในสมาชิกของวงแบบไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อเนื้อหาในเนื้อหาที่สื่อ Dispatch เสนอกล่าวอ้างว่ามีหลักฐานระบุว่าตัวบีไอนั้นเคยติดต่อขอซื้อยาเสพติดกับผู้ค้ายารายหนึ่งมาก่อนในตอนปี 2016

มรสุมลูกใหญ่ในวัย 23 ปี

ระหว่างการไต่สวนให้ปากคำรวมทั้งอีกหลายกระบวนการฟ้องศาลยุติธรรมที่เกิดขึ้น และก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายกันไปใหญ่มากยิ่งกว่านี้ ในวันที่ 12 มิถุนายน บีไอตัดสินใจยืดอกยอมรับในสิ่งที่ตัวเขากล่าวว่า “ไม่ได้ทำ” อย่างลูกผู้ชาย รวมทั้งกล่าวถึงอดีตของตัวเองด้วยความรู้สึกขมปากว่า “เป็นความจริงที่ผมเคยคิดจะพึ่งมันในตอนเวลานั้นที่ผมมีปัญหารวมทั้งเจ็บปวด แต่สุดท้ายแล้วผมก็กลัวรวมทั้งหวาดวิตกมากจึงไม่ได้ใช้มัน ผมทราบสึกละอายใจรวมทั้งสำนึกผิดในการกระทำที่ผิดพลาด ผมจึงขอถอนตัวออกมาจากวงแล้วก็ต้องการจะขอโทษแฟน ๆ และสมาชิกในวงจากใจจริง”
จุดเริ่มของรอยร้าวในชีวิตเกิดขึ้นเพียงเพราะเหตุว่าความคิดชั่ววูบในเวลานั้น บีไอคงหลงลืมไปว่า มันจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงตามมาให้ต้องเรียนผูกแล้วก็เรียนแก้ด้วยตัวเอง

ด้วยความรู้สึกผิดต่อเพื่อนร่วมวงและกลัวว่า ปัญหานี้จะกลายเป็นเครื่องฉุดรั้งให้วงต้องเสียชื่อเสียง และทำให้แฟน ๆ อย่างไอคอนิกต้องผิดหวังที่เขาไม่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีได้ บีไอเลือกหันหลังให้กับวงไอคอนและก็ค่ายวายจี เขาหลบจากแสงสีถอยหลังเข้าสู่เงามืดอย่างเร็วทันใจเพื่อจัดการปัญหาที่ยังคงคาราคาซังอยู่ ซึ่งหากแม้ผลตรวจหาสารเสพติดจากทางสำนักงานอัยการและก็จากทางค่ายจะออกมาว่าเป็นลบ ถ้าเกิดวายจีเองก็ได้ออกแถลงการณ์ถึงเรื่องนี้ว่าเคารพการตัดสินใจการลาออกของไอดอลชายหนุ่มโดยไม่พยายามที่จะยื้อเขาไว้แต่อย่างใด

ถ้าหากเรื่องใหญ่ระดับผิดกฎหมายคำว่าขอโทษคงไม่เพียงพอ ไฟไหม้ที่ว่าดันโหมกระพือกลายเป็นไฟลามทุ่ง เมื่อมือดีชาวโซเชียลขุดรากถอนโคนเรื่องราวนี้ออกมาอีกทั้งยวงพร้อมประจานไม่ยั้งว่าประธานค่าย ‘ยางฮยอนซอก’ มีส่วนเอี่ยวด้วยแบบเต็มประตู เมื่อย้อนไปปี 2016 ‘ฮันซอฮี’ หญิงสาวที่กล่าวถึงว่าเป็นอดีตเด็กฝึกจากค่ายวายจีกลับคำให้การหลังการเข้าพบของบิ๊กบอสจากค่าย ว่าอันที่จริงแล้วบีไอไม่ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการซื้อขายยาเสพติด ทำเอาใครคนจำนวนไม่น้อยวิพากษ์ไปว่านี่อาจจะเป็นการปิดปากเพื่อไม่ให้เธอคนนั้นพูดถึงศิลปินในค่ายของเขาเสีย ๆ หาย ๆ ประจวบกับที่ช่วงนั้นป๋ายางเองโดนกระแสลบตีกลับในหลายเรื่อง ทั้งยังการโดนกล่าวกล่าวหามีส่วนร่วมในกระบวนการค้าประเวณีร่วมกับศิลปินในค่ายอย่าง ‘ซึงรี’ ซึ่งในขณะนี้ติดคุกไปแล้ว รวมทั้งไหนจะเรื่องคลับในย่านฮงแดที่เขาเป็นเจ้าของนั้นมีการสอบสวนเรื่องการเลี่ยงภาษีและจดทะเบียนการค้าผิดรูปแบบ สุดท้ายต้องรับผิดชอบทั้งหมดด้วยการทิ้งเก้าอี้ผู้บริหารและลาออกไป ค่ายวายจีจึงก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยบรรยากาศที่ค่อนข้างไม่แน่ชัด

คิมฮันบิน

ในวันที่ iKON ไร้เงาหัวหน้าวง

ถ้าเกิดไม่นับ Blackpink ที่ยังคงทำรายได้มหาศาลและก็สร้างชื่อให้พุ่งทะยานไปถึงฝั่งตะวันตกแล้ว วงอื่นกลับถูกทิ้งจนกระทั่งลืมตามฉายาที่ใคร ๆ ก็ถูกใจบอกว่า “วายจีชอบดองเด็กในสังกัด” ยิ่งไอคอนเองก็เรียกว่ารับศึกหนักแบบเต็ม ๆ เช่นกัน ในวันที่วงไร้เงาหัวหน้าอย่างบีไอผู้เป็นเรี่ยวแรงมหาศาลที่ทำหน้าที่ทั้งแต่งเพลง เป็นโปรดิวเซอร์ ออกแบบท่าเต้น แล้วก็ร้องแร๊ปให้กับวง การดำเนินต่อของไอคอนก็เรียกว่าราวกับเป็นอัมพฤกษ์ไปตอนหนึ่ง แม้ช่วงต้นปี 2020 วงจะมีการคัมแบ๊กปล่อยเพลงออกมา
แต่ก็เรียกได้ว่าผิดหวัง ชาร์ตเพลงหล่นต่ำลงอย่างรวดเร็ว เหตุเพราะแฟน ๆ ส่วนหนึ่งทำใจไม่ได้ที่วงยังดึงดันใช้เพลงที่บีไอทำไว้ในการโปรโมต หากแม้ทางค่ายจะมีการปรับเปลี่ยนเมโลดี้แล้วก็เนื้อเพลงบางส่วนรวมทั้งตาม รวมทั้งถึงแม้ตัวบีไอจะรับผิดชอบด้วยการลาออกจากวงไปแล้ว แต่แฟน ๆ บางส่วนก็ยังไม่ค่อยพอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นพากันหันหลังโบกมือลาวงไอคอนไปคนไม่ใช่น้อย

แต่แสงไฟมักปรากฏที่ปลายอุโมงค์เสมอ เมื่อค่ายยอมวงไปออกรายการแข่งอีกรอบเพื่อพิสูจน์ความสามารถของอีก 6 หนุ่มที่หลงเหลืออยู่อย่างวาไรตี้ ‘Kingdom’ รายการที่จับเอาวงบอยแบนด์หลายวงมาแข่งกันหายอดเยี่ยมไอดอลในตอนต้นปี 2021 แล้วก็แม้วงจะชวดรางวัลที่หนึ่งไปแต่ก็พิสูจน์ให้แฟน ๆ รวมทั้งวงการเคป๊อปได้มีความเห็นว่า ไอคอนมีเพลงดังมากมายที่ฝังอยู่ในใจทุกคน และก็ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นไอคอนแห่งเคป๊อปได้ในที่สุด ซึ่งถัดจากนี้แฟน ๆ ไอคอนิกคงต้องมาตามลุ้นกันต่อว่าต่อขานเส้นทางของวงจะเดินไปในรูปแบบไหน เพราะเหตุว่าล่าสุดอีกหนึ่งสมาชิกตำแหน่งร้องแร๊ปอย่าง ‘Bobby’ เองก็พึ่งจะประกาศข่าวดีเรื่องการแต่งงานและมีเบบี๋ตัวน้อยไปแล้วด้วย

ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ

ย้ายกลับมาที่บีไอเองหากแม้ดูเหมือนแนวทางชีวิตจะขรุขระและเงียบหายไปจากวงการสักพัก ถ้าหากความรักในดนตรีแล้วก็การร้องเพลงยังคงเป็นแรงผลักดันให้กับเขาเสมอ บีไอยังคงขีดเขียนเพลงรวมทั้งปล่อยเดโม่ของตนเองใน Soundcloud เป็นระยะ ๆ แม้นอกจากไปกว่าข่าวพันพัวด้านลบที่เขาต้องเจอ บีไอกลับได้รับการเสนอชื่อให้นั่งแท่นเป็นกรรมการบริษัท IOK Company ขึ้นอยู่กับที่เต็มไปด้วยคนบันเทิงตั้งแต่นักร้อง นักแสดง แล้วก็พิธีกรอีกหลายสิบชีวิต นี่เป็นค่ายดังที่คนในประเทศรู้จักกันดีว่าชอบปัดกวาดคนบันเทิงที่มีความสามารถมานั่งแท่นบริหารองค์กรด้วยกันทั้งสิ้น แล้วก็แน่นอนว่าเขาตอบตกลงตำแหน่งนี้เพื่อเริ่มต้นอีกหนึ่งบทบาทของตน รวมทั้งเป็นการเปิดประตูก้าวเข้าสู่การเป็นนักร้องอีกครั้ง

ชีวิตบีไอไต่ขึ้นจากเหวลึกตามลำดับแล้วก็ฟื้นขึ้นอย่างเร็วด้วยความสามารถและก็สองแขนของเขา ยังมีเพื่อนรุ่นพี่อย่างวง ‘Epik High’ ที่ยังคงมั่นใจแล้วก็ชื่นชมในความสามารถของเขาได้เชิญชวนให้มาร่วมงานในเพลง ‘Acceptance Speech’ ที่ปล่อยออกไปในช่วงต้นเดือนมกราคมปี 2021 โดยไม่สนว่าจะมีกระแสตีกลับหรือไม่ เพราะว่าศิลปินด้วยกันเองเข้าใจกันดีถึงความสามารถอันพราวแพรวของเขา ซึ่งบีไอนับว่าเป็นไอดอลรุ่นใหม่ที่ได้รับเสียงชื่นชมในความสามารถจากการเป็นไอดอลคนแรกที่ชนะรางวัลแต่งเพลงเยี่ยมยอดจาก Melon Music Awards ในปี 2018 และก็ยังได้รับเครดิตในฐานะนักแต่งเพลงและก็โปรดิวเซอร์อีกมากมายจากค่ายเก่าอย่างวายจีอีกด้วย

แล้วไม่นานนักเขาเดินหน้าปล่อยซิงเกิ้ล

อัลบั้ม ‘Midnight Blue (Love Streaming)’ เป็นอัลบั้มเพื่อการบุญกุศลภายใต้ค่าย 131 Label ที่บีไอเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นสังกัดย่อยของ IOK Music กระแสของชายหนุ่มคนนี้เริ่มกลับมาอีกรอบ เมื่อ 3 เพลงในอัลบั้มชี้แจงความหมายที่ลึกซึ้งและก็ต้องการปลอบประโลมความอ่อนล้าล้าให้กับตัวเองรวมทั้งแฟน ๆ
เนื้อความที่จริงใจที่สุดส่งต่อถึงคนที่กำลังผ่านตอนเวลาที่ยากลำบาก สะท้อนความเข้าใจ และเข้าถึงคนฟังได้ลึกถึงก้นบึ้งของความคิด

ต่อด้วยการเชิญชวนศิลปินฝั่งตะวันตกอย่าง ‘Destiny Rogers’ และก็ ‘Tyla Yaweh’ มาร่วมงานในซิงเกิ้ลใหม่ แสงสว่างเริ่มสาดชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อบีไอเดินหน้าปล่อยอัลบั้มเต็มทั้งหมด 12 เพลงในชื่อว่า ‘Waterfall’ ที่ยังขอแรงเพื่อนสนิทจากค่ายเก่าอย่างนักร้องพลังเสียง ‘Lee Hi’ รวมทั้งรุ่นพี่คนสนิทอย่าง ‘Tablo’ มาร่วมงานในอัลบั้มนี้อีกด้วย การกลับมาครั้งนี้บีไอเปลี่ยนไป เขาสุขุมแล้วก็สงบมากขึ้นยามออกกล้อง แม้ความเป็นศิลปินอย่างเต็มตัวยังฉายชัดถึงแพชชั่นที่มี สไตล์เพลงที่เปลี่ยนไปมีการผสมผสานแนวป๊อปฟังสบาย รวมทั้งความเป็นโซลเข้ามาเติมเต็ม นับว่าเป็นการก้าวออกจากกรอบเพลงที่เรียกว่าเคป๊อปได้อย่างทั้งมวล

บทเรียนราคาแพงที่แลกมาด้วยเกือบทุกอย่าง ชีวิต เกียรติศักดิ์ อนาคต แล้วก็ความฝัน สอนให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแกร่งมากขึ้น สำหรับบีไอแล้วเขาจึงไม่ใช่แค่ไอดอล แต่เขาคือตัวอย่างของชีวิตที่มีจังหวะขึ้นรวมทั้งลง แม้สิ่งที่สำคัญคือ ความฝันแล้วก็ความไม่ยอมแพ้ที่จะฉุดตัวเองขึ้นจากปากเหวได้อีกรอบ คงไม่สำคัญว่าล้มเมื่อไหร่ แต่ลุกได้เร็วมากแค่ไหนคือคำตอบของการดำรงชีวิตต่างหาก และก็จากนี้พวกเรามั่นใจว่าทางชีวิตของเขาจะต้องพุ่งทะยานขึ้นสู่ยอดเขาอีกรอบ เพราะเหตุว่าไม่ว่าอย่างไรวงการเคป๊อปนี้ก็ยังต้องการคนเก่งอย่างผู้ชายที่ชื่อว่า “บีไอ” อยู่แล้ว

คิมยองแด
เกิดอะไรขึ้น!? ซุปตาร์ประเทศเกาหลีดังถูกยกเลิกงงานในประเทศไทย

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามีรายงานว่า นักแสดงชายดังแดนกิมจิ “คิมยองแด” Kim Youngdae กำลังเริ่มจะมีงานมีตติ้งของพบปะแฟนคลับชาวไทย กับงาน ‘FLY.OUNGDAE FALL IN LOVE YOUNGDAE THAILAND’ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์นี้

แต่ปัจจุบันไม่เคยทราบว่าเกิดอะไรขึ้น!? เมื่อทาง The DND ผู้จัดงานแฟนมีตติ้งของ คิมยองแด ในประเทศไทยออกมาประกาศงานนี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยให้เหตุผลว่า …เพราะว่าสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด และกระจ่างระบุการใหม่ให้ทราบโดยเร็วที่สุด…

พระเอกดังคิมยองแด

พระเอกดังแดนกิมจิ

ด้านแฟนคลับได้แสดงความเห็นว่า บางทีก็อาจจะเพราะฟีดแบคตอบรับไม่ดีเท่าที่ควรจะ เพราะเหตุว่าขายบัตรได้ไม่ถึง 10% ของงาน

ตามเก็บ 3 ผลงานเด็ดของ คิมยองแด (Kim Young-dae)

When the Weather Is Fine (2020)
ซีรีส์ ความยาว 16 ตอน ตอนละประมาณ 60 นาที
ช่องทางรับชม WeTV

ใครอยากสัมผัสบรรยากาศสโลว์ไลฟ์ขอให้พุ่งไปเรื่องนี้ มกแฮวอน (เล่นบทโดย พัคมินยอง) คุณครูสอนเชลโล่ในกรุงโซลที่เจอกับปัญหารายล้อมรอบด้านทำให้เธอรู้สึกเหมื่อยล้า หมดไฟ ไม่มีเรี่ยวแรงจะตื่นไปทำงาน ขณะที่ฤดูหนาวกำลังมาเยี่ยมยิ่งทำให้ความรู้สึกของมกแฮวอนดิ่งลงเหว คุณก็เลยออกเดินทางไปยัง หมู่บ้านบุคฮยอน จังหวัดคังวอน สถานที่ซึ่งเป็นบ้านเกิด เพื่อพักกายและฟื้นฟูสภาพจิตใจให้กลับมาดีดังเดิมก่อนฤดูใบไม้ผลิจะมาถึง

ขณะดำเนินชีวิตยังบ้านเกิด มกแฮวอนได้เจอกับ อิมอึนซอบ (สวมบทโดย ซอคังจุน) เด็กหนุ่มเจ้าของร้านหนังสือ Goodnight ผู้ที่ด้านนอกดูเย็นชาแต่ภายในกลับอบอุ่นอย่างกับเตาผิง ทั้งคู่เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้นผ่านการทำกิจกรรมเรียบง่ายอย่างการอ่านหนังสือและจิบกาแฟ ความสนิทสนมเริ่มก่อตัวกลายเป็นความรักท่ามกลางหิมะที่ยังคงกระหน่ำลงมาอย่างตลอด ตลอดฤดูหนาวมีเพื่อนเก่าวัยเด็กแวะเวียนมาหาพวกเขาอยู่บ่อยมาก แล้วก็หนึ่งในนั้นเป็น โอยองอู (สวมบทบาทโดย คิมยองแด) ชายหนุ่มที่เคยหลงรักมกแฮวอนตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

เป็นซีรีส์ที่สื่อถึงการหาความสุขรอบตัวที่เรียบง่าย บรรยายวิถีชีวิตของคนบ้านนอกล้อไปกับบรรยากาศหิมะตกตลอดทั้งเรื่องเชิญให้หนาวถึงขั้วหัวใจ แต่เมื่อพระนางอยู่ด้วกันทีไรเหมือนหิมะละลายลงในทันตา ตัวละครชาวบ้านในหมู่บ้านบุคฮยอนยังสร้างสีสันเพิ่มความอบอุ่นให้ทุกเรื่องราวได้เป็นอย่างดี ยิ่งเรื่องนี้นำนิยายชื่อดังมาร้อยเรียงเป็นละครก็เลยเต็มไปด้วยประโยคสนทนาที่คมคายกินใจ ดำเนินเรื่องไปอย่างเนิบช้าแต่กระทบความรู้สึกเกือบทุกซีน ใครเป็นคอซีรีส์ชีวิตซ่อนเร้นปรัชญาอย่าง My Mister (2018) หรือ My Liberation Notes (2022) เชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะตอบปัญหาด้วยเหมือนกัน

หากแม้เรื่องนี้คิมยองแดจะไม่ใช่นักแสดงหลัก แต่ช่วงหนึ่งของซีรีส์เขากลับมีบทบาทสำคัญต่อเรื่องราวอยู่ไม่น้อยทีเดียว ต้องเป็นอีกทั้งนักเรียนวัยมัธยมและวัยผู้ใหญ่ ทำให้ได้เห็นทั้งพาร์ทที่เขายังเป็นนักเรียนมอปลาย บุคลิกเป็นผู้นำกลุ่มอันธาลที่เพื่อนร่วมโรงเรียนไม่กล้าหือ ขณะที่พาร์ทผู้ใหญ่กลับเงียบเฉยรวมทั้งสุภาพอ่อนโยนมากขึ้น ถึงจะปรากฏตัวไม่บ่อยแต่การแสดงที่พัฒนาขึ้นทำให้ดูแล้วยังจดจำหนุ่มคนนี้ได้เป็นอย่างดี

The Penthouse: War in Life – เกมแค้นระฟ้า (2020-2021) คิมยองแด

ซีรีส์ 3 ซีซั่น ความยาว 48 ตอน ตอนละประมาณ 80 นาที
ช่องทางรับชม NETFLIX / WeTV / VIU (มีพากษ์ไทย)

สายดราม่าบาดใจชักชวนทางนี้ เปิดชีวิตเหล่าไฮโซในตึกหรูที่สุดของกรุงโซลอย่าง เฮราพาเลซ ศูนย์กลางแห่งความคลั่งไคล้มัวเมาในอำนาจรวมทั้งเงินตราที่ซึ่งกฎเกณฑ์ทางด้านศีลธรรมถูกละเว้นเพื่อพวกเขาได้สนองกิเลสตัณหาอย่างไม่สิ้นสุด เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อตึกแห่งนี้ได้เกิดเหตุฆาตกรรมเด็กสาวนามว่า มินซอลอา (รับบทโดย โชซูมิน) นำมาซึ่งมหากาพย์แห่งการแก้แค้นรวมทั้งความสัมพันธ์อันสลับซับซ้อนเกินคาดเดา

การเสียชีวิตของมินซอลอาเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวทั้งหมด มหกรรมเปิดเผยความลับของคนเราในตึกแห่งนี้ได้นำพาพวกเขาให้เข้ามาเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ฉาวโฉ่ที่ยิ่งขุดยิ่งเน่าจนถึงเกินแก้ไข โดยยิ่งไปกว่านั้นเจ้าแห่งแวดวงอสังหาริมทรัพย์อย่าง จูดันแท (รับบทบาทโดย ออมกีจุน) ชิมซูรยอน (รับบทโดย อีจีอา) ภรรยาผู้เต็มไปด้วยบาดแผลจากเหตุฆาตกรรมดังกล่าว ทั้งยังสาวไส้ไปถึงนักร้องโซปราโน่ชื่อดังอย่าง ชอนซอจิน (สวมบทโดย คิมโซฮยอน) รวมไปถึงตัวแทนของชนชั้นกลางอย่าง โอยุนฮี (สวมบทบาทโดย ยูจีน) หญิงสาวผู้ปรารถนาที่จะยกระดับชีวิตตัวเองจึงก้าวเข้ามายังตึกระฟ้าแห่งนี้ด้วยเดิมพันบางอย่าง

เป็นซีรีส์ดราม่าที่คงไม่มีใครไม่เคยรู้เพราะว่า

ชื่อกระฉ่อนทั้งยังในแล้วก็นอกประเทศเกาหลี เดินเรื่องโดยใช้เกมเอาคืนนำทางตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งนาทีสุดท้าย ระหว่างทางขยันแกงคนดูด้วยการสรรหาสารพัดกลเม็ดเด็ดพรายมาพลิกแพลงกระทั่งคาดเดาไม่ได้ คนจำนวนไม่น้อยให้คำจำกัดความเรื่องนี้ว่า ศูนย์รวมความประสาทแ_กชั้นเยี่ยม ลากเนื้อเรื่องยาวมาถึงสามซีซั่นชนิดที่ความชื่นชอบไม่เคยแผ่วแถมยังมีความแปลกใหม่มาให้ได้ร้องว้าวกันตลอด
นอกเหนือจากการต่อสู้บาดใจแล้วยังเสียดสีสังคมด้วยการเผยหัวข้อชนชั้น การศึกษา รวมทั้งระบบยุติธรรมเอาไว้อย่างโจ่งแจ้ง เนื้อหาเข้มข้นตั้งแต่รุ่นบิดามารดาสู่รุ่นลูก ใครกำลังมองหาซีรีส์ที่ดูแล้วสะใจจนตบเข่าฉาด บอกเลยห้ามพลาดด้วยประการทั้งสิ้น

เรื่องนี้คิมยองแดมีจังหวะสวมบทเป็นนักเรียนมัธยมปลายอีกครั้งในตัวละครที่ชื่อว่า จูซอกฮุน ลูกชายคนโตของจูดันแท นับว่าเป็นผลงานที่แฟนชาวไทยเองได้ทำความรู้จักชายหนุ่มคนนี้อย่างเป็นทางการและให้การต้อนรับในโลกโซเชียลกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ด้วยการถ่ายทอดบุคลิกลักษณะวัยรุ่นที่มีความเก็บกดจากการกระทำของพ่อแม่ ก็เลยกลายเป็นคนนิ่งเฉยแต่เฉลี่ยวฉลาดและมีไหวพริบ ความเข้มข้นของเนื้อเรื่องเปิดโอกาสให้คิมยองแดได้พัฒนาความชำนาญทางการแสดงกระทั่งทุกวันนี้ได้ก้าวขึ้นแท่นเป็นพระเอกเต็มตัวไปเป็นที่เรียบร้อย

Kim Youngdae
Shooting Star (2022)

ซีรีส์ ความยาว 16 ตอน ตอนละประมาณ 60 นาที
ช่องทางรับชม VIU / iQIYI / WeTV

ส่งท้ายกันด้วยผลงานล่าสุดกับการเป็นพระเอกเต็มตัวทีแรกหลังจากวนเวียนเป็นนักแสดงสมทบมาพอเหมาะสม พาทุกคนไปซอกแซกเบื้องหลังการทำงานของมนุษย์ในค่ายบันเทิงทั้งยังผู้บริหาร ผู้จัดการดารา และหัวหน้าทีมประชาสัมพันธ์อย่าง โอฮันบยอล (สวมบทบาทโดย อีซองคยอง) พีอาร์สาวผู้ต้องสู้จัดการกับทุกอุปสรรครอบด้านเพื่อดูแลภาพลักษณ์นักแสดงในสังกัดให้เฉิดฉายมากที่สุด เธอทำงานชนิดขายวิญญาณตลอด 24 ชั่วโมงจนถึงเกือบจะไม่เหลือเวลาให้ใช้กับเรื่องส่วนตัว

ยุ่งเหยิงหัวฟูจากภาระงานรายวันยังไม่พอ โอฮันบยอลยังต้องรับมือกับ กงแทซอง (สวมบทโดย คิมยองแด) ซูเปอร์สตาร์ระดับเอลิสต์ขวัญใจแฟน ๆ ทั้งประเทศ ภาพลักษณ์ของกงแทซองเป็นหนุ่มหล่อสุภาพอ่อนโยนและก็มีจิตสาธารณะจากการเดินทางไปเป็นอาสาสมัครยังพื้นที่ทุรกันดารในทวีปแอฟริกา แต่เบื้องหลังเขากลับเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพีอาร์สาวจากการถูกทำให้ขายหน้าขายตาเมื่อหกปีก่อน เมื่อกลับมาเกาหลีกงแทซองเกาะติดโอฮันบยอลเป็นปลิงรวมทั้งคอยกลั่นแกล้ง
เธอสารพัด แต่ตีกันไปตีกันมาดูเหมือนกับสงครามประสาทระหว่างซุปตาร์ชายหนุ่มกับพีอาร์สาวจะกลายเป็นความรักไปเสียดื้อ ๆ

นอกจากการเผยแพร่เบื้องหลังของวงการบันเทิงเกาหลีที่เล่าออกมาไม่เครียดกระทั่งเกินไป เรื่องนี้ยังจัดเต็มอีกทั้งความตลกแล้วก็ความเกี่ยวพันรักสุดหวานของบรรดาตัวละครมากมายหลายคู่ มั่นใจได้เลยว่าถูกจริตคอซีรีส์รอมคอมแบบสิบเต็มสิบ ได้มองเห็นคิมยองแดในฐานะพระเอกเต็มตัวกับบทบาทซุปตาร์ชายหนุ่มมาดทะเล้น ลักษณะท่าทางโตเป็นผู้ใหญ่แปลกหูแปลกตาจากผลงานที่ผ่านมา เสริมความน่าดูด้วยเคมีที่เข้ากันได้อย่างกลมกล่อมกับนางเอก อีซองคยอง เรียกว่าตีกันตั้งแต่เริ่มจนอดหมั่นเขี้ยวไม่ได้

ไอยู
หล่อมั่งคั่งเวอร์! ซงจุงกิซื้อวิลล่าหรูแพงสุดในประเทศเกาหลี มีซุปตาร์คนนี้เป็นเพื่อนบ้าน

เมื่อวันที่ 12 มกราคม ในรายการ Entertainment Company Live ของสถานี KBS ได้เผยทรัพย์สินบางส่วนในพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ของนักแสดง และก็หนึ่งในนั้นเป็นพระเอกซุปตาร์ ซงจุงกิ ตามรายงานพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ของซงจุงกิมีมูลค่าสูงถึง ₩50.0 พันล้านวอน (ประมาณ 40.3 ล้านเหรียญสหรัฐ) และก็รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น คอนโดสุดหรูริมชายหาดฮาวายที่เขาจ่ายไป 2,7000 ล้านวอน และก็ที่พักสุดหรูในอิแทวอนที่เขาซื้อในราคา 10,000 ล้านวอน ซึ่งมีรายงานว่าเดี๋ยวนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 20.0 พันล้านวอน (ประมาณ 16.1 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ซงจุงกิซื้อวิลล่า

ทั้งนี้ยังมีการเปิดเผยว่า อพาร์ตเมนท์บริเวณฮันนัมดง ในขณะนี้ของซงจุงกิมีมูลค่า 9.50 พันล้านวอน (ประมาณ 7.66 ล้านเหรียญสหรัฐ)
แต่เมื่อเทียบกับวิลล่าสุดหรูบริเวณชองตัมดงที่เขาพึ่งซื้อ ที่นี่จัดว่าเป็นอสังหาฯ ที่แพงที่สุดในประเทศเกาหลีใต้

วิลล่าหรูแพงสุดในเกาหลี

สำหรับวิลล่าสุดหรูแห่งใหม่ของ ซงจุงกิ

สามารถมองเห็นแม่น้ำฮันชัดเจน และก็มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก ๆ ดังนี้ยังมีซุปตาร์สาว ไอยู (IU) อาศัยอยู่เช่นกัน

ผลงานสุดปัง ซงจุงกิ พระเอกฮอตผู้ครอบครองสมญานาม สามีแห่งชาติ

ซงจุงกิ (Song Joong-Ki) #สามีแห่งชาติที่แท้ทรูสำหรับพระเอกหนุ่มสุดฮอต หลังจากครองใจสาว ๆ ทั่วเอเชียกับบทบาท กัปตันยูชีจิน ในซีรีส์ที่โด่งดังไปทั่วอย่าง Descendants of the Sun ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ กันไปแล้ว ยังกลับมาตอกย้ำซ้ำเติมความร้อนแรงด้วยบท วินเซนโซ่ ทนายมาเฟียมาดเนี้ยบ ที่ทำให้ใครหลายท่านยังมูฟออนไม่ได้ แถมผลงานล่าสุดอย่าง Reborn Rich ก็ลาจอไปด้วยการทำเรตติ้งสูงเป็นอันดับ 2 ของซีรีส์ช่องเคเบิลอีกต่างหาก รวมทั้งด้วยความสามารถที่หลากหลาย บวกกับการแสดงที่ยอดเยี่ยม วันนี้ทีมข่าวจะพาแฟนคลับไปย้อนดูผลงาน ซงจุงกิ สุดปัง ทั้งหนังและซีรีส์ ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้นตามมาชมแล้วเก็บเข้าลิสต์กันเลย

ซงจุงกิ

ประวัติ ซงจุงกิ

ซงจุงกิ นักแสดงชาวประเทศเกาหลีใต้
เกิดเมื่อวันที่ 19 ก.ย. พ.ศ. 2528
เริ่มเข้าสู่วงการแสดงในปี 2551 ในหนังแนวพีเรียดเรื่อง A Frozen Flower (2551)

ซงจุงกิเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากบทบาท กูฉันยงฮา ในซีรีสเรื่อง Sungkyunkwan Scandal (2553) หรือชื่อไทยว่า บัณฑิตหน้าใส หัวใจว้าวุ่น และพิธีกรรายการวาไรตี้โชว์สุดได้รับความนิยม
อย่าง Running Man (รันนิ่งแมน) นั่นเอง ก่อนที่จะได้รับบทนำคราวแรกในซีรีส์เรื่อง The Innocent Man (2555) ซีรีส์แนวดราม่าสุดเข้มข้น

แล้วก็ในปี 2556 เขาได้เข้ารับการเกณฑ์ทหารเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งหลังจากปลดประจำการเขามีผลงานชิ้นใหม่ที่โด่งดังกลายเป็นที่รู้จักทั่วเอเชียกับ Descendants of the Sun (ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ)
แล้วก็ซีรีส์เรื่องนี้เองที่ทำให้ได้เจอรักกับ ซองเฮเคียว (Song Hye-gyo) ผู้รับบทนางเอกของเรื่อง รวมทั้งกลายมาเป็นนางเอกในชีวิตจริงของเขาด้วย ซึ่งทั้งสองได้แต่งงานกันในปี 2560 และเลิกร้างกันในปี 2562 จบตำนานรักคู่จิ้นสุดฟินกันไป

นักแสดงซงจุงกิ

ผลงานเด่น ซงจุงกิ

Sungkyunkwan Scandal (2010)
บัณฑิตหน้าใส หัวใจว้าวุ่น อีกหนึ่งซีรีส์ที่รวบรวมนักแสดงชื่อดังไว้มากมาย ทั้งพัคยูชอน พัคมินยอง ซงจุงกิ ยูอาอิน และก็ซอฮโยริม เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในซองคยุนกวาน สถาบันอบรมบัณฑิตชื่อดังในสมัยโชซอน โดยเรื่องเกิดขึ้นหลังจาก คิมยุนฮี สาวน้อยหน้าหวานที่ต้องคอยหาเลี้ยงครอบครัว ปลอมตัวเป็นผู้ชายและก็รับจ้างสอบแทนเพื่อหาเงิน แต่ดันโชคร้ายโดน
ลีซอนจุน ลูกชายของรัฐมนตรีฝ่ายซ้ายของราชสำนัก จับได้ว่าคุณแอบคดโกง เธอเลยต้องตัดสินใจหลบหนีออกมา

แต่ทว่าไป ๆ มา ๆ เขากลับรู้สึกประทับใจรวมทั้งเรียกตัวเธอกลับมาสอบอีกรอบ สุดท้ายทั้งสองก็เลยได้เข้าเรียนด้วยกัน กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน แล้วก็มีความรู้สึกพิเศษให้กัน โดยที่ฝ่ายชายไม่เคยรู้เลยว่าตามที่เป็นจริงแล้วเธอเป็นผู้หญิง ซึ่งในเรื่อง ซงจุงกิ สวมบทบาท กูยงฮา
เด็กหนุ่มหน้าใสเจ้าสำราญ เรียกได้ว่าเป็นบทบาทที่ทรงเสน่ห์มากจริง ๆ

The Innocent Man (2012)
ก้าวขึ้นมาเป็นพระเอกเต็มตัวครั้งแรกสำหรับบทบาท คังมารู ที่เป็นการพลิกบทจากหนุ่มเจ้าสำราญเป็นหนุ่มที่มีปมในใจ เรียกได้ว่าเป็นการพิสูจน์ฝีมือการแสดงของซงจุงกิเลยทีเดียว เพราะเหตุว่าเขาสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง บทจะหวานก็หวานจนคนดูจิกมือแล้วจิกมืออีก บทจะระทดก็ดราม่าเสียจนกระทั่งน้ำหูน้ำตาไหล แล้วก็ด้วยรายละเอียดของเรื่องที่พูดถึง คังมารู นักศึกษาแพทย์ผู้มีจิตใจดียอมเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อผู้หญิงที่รัก กลับกลายเป็นผู้ชายที่ใช้ชีวิตในความมืดเพื่อรอวันแก้เผ็ดผู้หญิงที่ทรยศเขา

ซึ่งการแสดงในเรื่องนี้ทำให้เขาได้รับรางวัลมากมาย อีกทั้งนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ในงาน K-Drama Star Awards ครั้งที่ 1, รางวัล Best Couple Award, Netizens’ Award แล้วก็ Top Excellence Award, Actor จากงาน KBS Drama Awards ในปี 2012 ด้วย

A Werewolf Boy (2012)
ก้าวเข้าสู่โลกภาพยนตร์กันบ้าง สำหรับเรื่องนี้ ซงจุงกิ สวมบทเป็น ชอลซู เด็กชายกำพร้าที่เติบโตมาแบบไม่มีคนเลี้ยงดู ทำให้เขามีพฤติกรรมคล้ายสัตว์ จนถึงได้มาเจอกับครอบครัวของ ซุนอี ที่รับเขามาดูแลและกลายเป็นมิตรภาพกระทั่งก่อให้เกิดความรักนั่นเอง ซึ่งในเรื่องนี้เป็นการดึงความสามารถในฐานะนักแสดงขั้นสุด เพราะเหตุว่าบทของเขานั้นใช้การแสดงอารมณ์สื่อสารผ่านสายตารวมทั้งท่าทางเป็นหลัก เรียกได้ว่าเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซอีกชิ้นหนึ่ง และทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากงาน Baeksang Arts Awards ในปี 2013 อีกด้วย

Descendants of the Sun (2016)
ฮอตเว่อร์วังสำหรับซีรีส์เรื่องนี้ที่ต้อนรับการกลับมาของซงจุงกิ หลังจากเกณฑ์ทหารเป็นเวลา 2 ปี กับบทบาทผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ ซึ่งคาแรกเตอร์นี้เป็นที่ชอบใจของคนไม่ใช่น้อย อีกทั้งในเรื่องความกล้าหาญ มีเกียรติ และก็ความฉลาดมาก สำหรับบทกัปตันยูชีจินที่โด่งดังไปทั่วเอเชียแปซิฟิก นับเป็นงานแสดงที่สะท้อนตัวตนที่เติบโตของเขา ความเป็นผู้ใหญ่ที่แตกต่างจากภาพลักษณ์ที่ผ่านมาที่ดูเป็นชายหนุ่มดอกไม้หน้าหวาน ที่พบรักกับคุณหมอคนสวยอย่าง คังโมยอน ที่นำแสดงโดย ซองเฮเคียว แล้วก็ด้วยเคมีที่เข้ากันของคู่พระ-นาง ยิ่งนำมาซึ่งการทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอีกเท่าตัว และก็ได้รับความนิยมทั้งในแล้วก็นอกประเทศ แถมยังสร้างปรากฏการณ์รักนอกจอที่ทำให้ทั้งสองจับมือเข้าประตูแต่งงานกันในปี 2017 อีกด้วย

The Battleship Island (2017)

อีกหนึ่งหนังทำเงินของเกาหลี โดยในเรื่องนี้ ซง จุงกิ รับบทบาทเป็น พัคมูยอง สมาชิกของขบวนการเรียกร้องเอกราชในประเทศเกาหลีใต้ ที่แทรกซึมเข้าไปในเกาะเพื่อช่วยเหลือสมาชิกในกลุ่มออกมา หนังว่าด้วยเรื่องราวของ Battleship Island ที่เกิดขึ้นในสมัยประเทศเกาหลีตกเป็นอาณานิคมของประเทศญี่ปุ่น โดยชาวประเทศเกาหลีกว่า 400 ชีวิต ถูกส่งไปใช้แรงงานหนักในเหมืองถ่านหินบนเกาะเรือรบ (Battleship Island) หรือที่รู้จักในนาม เกาะฮาชิมะ แต่ด้วยสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ไม่ดีเกินนำเสนอ พวกเขาก็เลยร่วมกันคิดแผนหลบซ่อนออกมา

Arthdal Chronicles (2019)
หลังจากห่างหายไป 2 ปี ซงจุงกิก็กลับมาอีกทีในผลงานซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่ต้องใช้ทักษะในการแสดงอย่างยิ่ง กับการสวมบทเป็นตัวละครฝาแฝด อึนซอม รวมทั้ง ซายะ ที่มีชีวิตแตกต่างกันคนละขั้ว กับเรื่องราวแฟนตาซีเกี่ยวกับชนเผ่าต่าง ๆ ที่ช่วงชิงแล้วก็แสวงหาอำนาจในดินแดนโบราณ ซีรีส์เรื่องนี้เป็นที่สนใจเพราะเหตุว่าเล่าถึงยุคสมัยก่อนการเป็นประเทศเกาหลี ทั้งยังไม่เคยมีพล็อตที่พูดถึงยุคเริ่มแบบนี้มาก่อนในซีรีส์ประเทศเกาหลีเรื่องไหน ๆ สำหรับแฟนคลับซงจุงกิก็จะได้สนุกสนานไปกับเรื่องราวของ อึนซอม และ ทันยา (คิมจีวอน) ที่มาจากเผ่าเดียวกัน ก่อนจะดราม่าเข้มข้นเมื่อพวกเขาต้องเจอกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น รวมทั้งแน่นอนว่าเรื่องนี้พวกเราจะยังได้มองเห็นกล้ามเท่ๆของซงจุงกิกันอย่างจุใจ

กับเรื่องราวแฟนตาซีย้อนยุคในดินแดนแห่งตำนานซึ่งมีชื่อว่า อาธ เหล่าผู้อยู่อาศัยในอาธดัล เมืองโบราณและก็ดินแดนโดยรอบ ต่างหาทางช่วงชิงอำนาจกันขณะพยายามสร้างสังคมรูปแบบใหม่ ซีรีส์เรื่องนี้เป็นการผสมผสานทั้งเรื่องราวความรัก ความไม่ถูกกัน แล้วก็การปรองดองของวีรบุรุษในตำนาน ถ้าเกิดนับกับในความเป็นจริงแล้วนับว่าเป็นการเสนอถึงจุดเริ่มต้นของมนุษยชาติแล้วก็การเริ่มตั้งประเทศของประเทศเกาหลีก็ว่าได้

Space Sweepers (2021)
ซงจุงกิกลับมาอีกรอบในภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์เรื่อง Space Sweepers ในเรื่องนี้เขาสวมบทบาทเป็น คิมแทโฮ นักบินอวกาศสุดอัจฉริยะที่ทำทุกอย่างเพื่อเงิน เรื่องราวของโลกในปี 2092 เมื่อคิมแทโฮ และเพื่อน ๆ บนยานอวกาศ Victory ต้องวิ่งไล่ตามเก็บขยะอวกาศเพื่อหาเลี้ยงตัว พวกเขาบังเอิญเจอหุ่นยนต์ตัวร้ายแล้วก็คิดจะขายมันให้ได้เงินมหาศาลโดยไม่เคยรู้ว่านี่เป็นความอันตรายอย่างที่สุด ถือเป็นหนังแนวไซไฟจากเกาหลีที่เว้นแต่ความน่าสนใจของเรื่องราวแล้วยังเต็มไปด้วยซีจีน่าทึ่ง รวมทั้งยังเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นโบแดงของซงจุงกิอีกด้วย

Vincenzo (2021)
ซีรีส์ที่ต้อนรับการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของซงจุงกิในรอบ 2 ปี โดยครั้งนี้เขาจะสวมบทบาทเป็น วินเซนโซ่ กาซาโน สมาชิกในแก๊งมาเฟียอิตาลี เขากลับมาเกาหลีเพื่อหาสมบัติที่กลุ่มมาเฟียแอบซ่อนไว้ กระทั่งได้บังเอิญเจอกับ ฮงชายอง ซึ่งเป็นทนายเช่นเดียวกัน รวมทั้งได้ร่วมมือกันเพื่อถามหาความยุติธรรมจากสิ่งที่เกิดขึ้น โดยไม่สนใจว่าจะได้มันมาด้วยวิธีไหน สำหรับการรับบทนำคราวนี้ ซงจุงกิทำให้เห็นว่าเขาชอบทำให้ตัวละครมีชีวิตขึ้นมา ทั้งยังเป็นคาแรกเตอร์ที่ไม่ซ้ำกับที่เขาเคยแสดงมาก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา สำหรับซีรีส์ Vincenzo ไม่ว่าจะสวมชุดอะไรซงจุงกิก็ดูดีไปหมด ยิ่งชุดสูทด้วยแล้วยิ่งดูดีสุด ๆ

Reborn Rich (2022)
หลังจากกอบโกยเรตติ้งเป็นกอบเป็นกำใน Vincenzo ซงจุงกิ ก็กลับมาอีกรอบในซีรีส์แนวแฟนตาซี-ดราม่า ที่อ้างอิงมาจากนิยายออนไลน์ยอดนิยมชื่อเดียวกัน กับบทบาท นายน้อยจินโดจุน ที่กลับชาติมาเกิดเพื่อแก้แค้น โดย Reborn Rich บรรยายเรื่องราวของ ยุนฮยอนอู ทำงานให้กับตระกูลมหาเศรษฐีมาเป็นเวลานานมากกว่า 10 ปี เขาทำหน้าที่คอยรับใช้ทุกอย่างให้กับพวกเขา ไม่มีความต่างจากคนรับใช้คนหนึ่ง แต่แล้ววันหนึ่งเขากลับถูกใส่ความและถูกฆ่าโดยลูกคนเล็กของตระกูล ต่อมาฮยอนอูกลับพบว่าตนเองกลับมาอยู่ในร่างของคนที่ฆ่าเขาเองอย่าง จินโดจุน รวมทั้งย้อนกลับมาอยู่ในยุค 80 เขาตัดสินใจที่จะล้างแค้นตระกูลนี้ให้สาสม และแน่นอนว่าตอนสุดท้ายของซีรีส์เรื่องนี้ก็สามารถโกยเรตติ้งจนกระทั่งขึ้นเป็นอันดับ 2 ของซีรีส์ช่องเคเบิลเรตติ้งสูงสุดตลอดกาล โดยเป็นรองแค่เพียงเรื่อง The World of the Married เท่านั้นอง

เชื่อว่าใครที่เป็นแฟนคลับของชายหนุ่ม ซง จุงกิ อาจจะผ่านตากันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับใครที่เพิ่งโดนตกมาหมาด ๆ เราขอแนะนำว่าตามเก็บกันให้ครบ
เพราะว่านอกเหนือจากซีรีส์ที่เราหยิบมาฝากในวันนี้ จุงกิยังมีผลงานเรื่องอื่น ๆ ให้ติดตามกันอีกเพียบ เรียกได้ว่าดูกันไปยาว ๆ

พัคโบกอม
หล่อสร้างเรื่อง! ภาพนี้ของพัคโบกอม ทำสาว ๆ ทั้งยังเอเชียต่างพูดถึงเป็นเสียงเดียวกัน

เป็นพระเอกซุปตาร์ที่มีเเฟนคลับทั้งโลกเลยค่ะ สำหรับ พัคโบกอม เเน่นอนว่าความปังเเละความดังของเขานั้นไม่ว่าจะขยับเขยื้อนตัวทำอะไรก็มีเเต่เเฟนคลับคอยซัพพอร์ต อยู่ทุกเรื่อง อย่างปัจจุบันเมื่อวันที่ ( 12 มกราคม 2023 ) ในช่วงบ่ายของวัน พัคโบกอม

ได้ปรากฎตัวที่งานรอบรอบปฐมฤกษ์วีไอพีของภาพยนตร์ เรื่อง “Phantom” (ผู้กำกับอีแฮยอง) ซึ่งจัดขึ้นที่ CGV Yongsan I’Park Mall ในกรุงโซล

ดาราพัคโบกอม

พัคโบกอมเฉิดฉันด้วยลุคหล่อทั้งยังผมอีกทั้งหน้าเเละอีกทั้งชุด

ทำคนจำนวนไม่น้อยที่เห็นภาพนี้อดชื่นชอบไม่ได้

พัคโบกอมอยู่ที่นี่เพื่อสนับสนุนนักแสดงพัคโซดัม ซึ่งเขาร่วมงานด้วยในละครเรื่อง “Record of Youth”
ซึ่งเป็นการปรากฏตัวบนจอแก้วครั้งสุดท้ายก่อนเข้ากรม พัคโบกอมดึงดูดสายตาด้วยการสวมชุดลำลองแล้วก็แสดงรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ ในขณะที่มิตรภาพระหว่างนักแสดงทั้งสองก็ดึงดูดความสนใจเช่นเดียวกัน

นักแสดงเกาหลี

ประวัติ พัคโบกอม พระเอกหน้าหวานดินแดนกิมจิ พร้อมผลงาน

พัคโบกอม Park Bo Gum ดาราชายหน้าหวานในวงการ ซีรีส์เกาหลี ดาราเกาหลี ดีกรีเป็นอีกทั้งนักแสดงและก็นักร้องชาวประเทศเกาหลีใต้
เปิดตัวทีแรกในการแสดงภาพยนตร์ปี 2011 ได้รับกระแสตอบรับดีมาก ๆ จากการแสดงละครโทรทัศน์หลากหลายบทบาท เช่น Cantabile Tomorrow ปี 2014, Hello Monster ปี 2015, Reply 1988 ปี 2015, Moonlight Drawn by Clouds ปี 2016, Encounter ปี 2019 รวมทั้ง Itaewon Class ปี 2020 และตัดสินใจเข้ากรมทหารไปทำหน้าที่ของลูกผู้ชายประเทศเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการ เป็นเวลาเกือบจะ 2 ปีถัดจากนี้ ออกมาพวกเราคงจะได้เห็นผลงานของ โบกอม อีกมากมาย
มาทำความรู้จักพระเอกหนุ่มหน้าหวานเปิด ประวัติ พัคโบกอม พร้อมผลงาน และรางวัลที่ได้รับ

ประวัติ Park Bo Gum

พัคโบกอม หรือ พัก โบ กอม นักแสดงหนุ่มรูปหล่อชาวประเทศเกาหลีใต้
เกิดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 1993 ความสูง 182 เซนติเมตร โดยครอบครัว มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน โบกอม เป็นน้องคนสุดท้อง มีผลงานการแสดงทีแรกในภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 2011

ชี่อของเขา “Bo-gum” ที่มีความหมายว่า ดาบล้ำค่า แม่เสียชีวิตเมื่อเขาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่สี่ เขาเริ่มเรียนรู้เปียโนเมื่อเขาอยู่ในโรงเรียนอนุบาล เป็นนักเปียโนรวมทั้งเป็นสมาชิกคณะนักร้องประสานเสียงในโบสถ์ เขายังอยู่ในทีมว่ายตัวแทนของโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น โซลม็อกดง แล้วก็ได้ศึกษาต่อที่ Myoongji University ปริญญาตรีสาขาโรงละครดนตรี Myongji University’s Film and Musical Studies Department

ผลงานการแสดง พัคโบกอม

เดบิวต์ในฐานะนักแสดงภายใต้สังกัด Sidus HQ โดยมีบทบาทในภาพยนตร์ตื่นเต้น

เรื่อง Blind (2011) แล้ว

เขาก็เข้าร่วมสังกัด Blossom Entertainment แล้วก็

แสดงในภาพยนตร์แอคชั่นคอมเมดี้เรื่อง Runway Cop (2012)

รวมถึงละครเรื่อง Bridal Mask (2012) ในปี 2013 เขามีบทบาทสำคัญครั้งแรกในละครสุดสัปดาห์เรื่อง Wonderful Mama ที่สวมบทเป็นลูกชายเพลย์บอย ปี 2557–2558 ความนิยมชมชอบและความก้าวหน้าในวงการบันเทิงของเขามีมากขึ้น เขาได้รับโอกาสแสดงในซีรีส์มากมายแล้วก็ทำให้เขาได้รับรางวัลจากการแสดงนั้น

ซีรีส์ ละคร โทรทัศน์

ปี 2012
Neighborhood Hero รับบท Kang Dong-woo ช่อง OCN
Bridal Mask หน้ากากปีศาจ รับบท Min-kyu (ตอนที่ 26–28)ช่อง KBS2

ปี 2013
Wonderful Mama รับบท Go Young-joon ช่อง SBS

ปี 2014
Wonderful Days มหัศจรรย์แห่งรัก รับบท วัยหนุ่มของคัง Dong-seok ช่อง KBS2
Naeil’s Cantabile จังหวะรัก หัวใจดนตรี รับบท Lee Yoon-hoo ช่อง KBS2

ปี 2015
The Producers โปรดิวเซอร์หน้าใส หัวใจกุ๊กกิ๊ก ตอนที่ 9 ช่อง KBS2
Hello Monster เฮลโลมอนสเตอร์ รับบท Jung Sun-ho/Lee Min ช่อง KBS2
Reply เรื่อง วันวาน 1988 รับบท Choi Taek ช่อง tvN

ปี 2016
Love in the Moonlight รักเราพระจันทร์เป็นใจ รับบท Lee Yeong ช่อง KBS2

ปี 2018-2019
Encounter รับบท Kim Jin-hyuk ช่อง tvN

ปี 2020
Itaewon Class รับบท New cook at Soo-ah’s restaurant (รับเชิญ Ep. 16) ช่อง tvN

ภาพยนตร์
Blind รับบท Min Dong-hyun
Runway Cop รับบท young Cha Chul-soo
A Hard Day รับบท Officer Lee Jin-ho
The Admiral: Roaring Currents รับบท Bae Soo-bong
Twinkle-Twinkle Pitter-Patter รับบท Jun-woo Short film
Coin Locker Girl รับบท Park Seok-hyun
Seo Bok รับบท Seo Bok

รางวัลที่ได้รับ พัคโบกอม

ปี 2015
14th KBS Entertainment Awards สาขา Best Newcomer Award จาก Music
KBS Drama Awards สาขา Popularity Award, Actor จาก Hello Monster
KBS Drama Awards สาขา Best Supporting Actor จาก Hello Monster

ปี 2016
11th Max Movie Awards สาขา Rising Star Award จาก Coin Locker Girl
8th Style Icon Asia สาขา Style Icon
16th Top Chinese Music Awards สาขา Best International Artist
4th Annual DramaFever Awards สาขา Best Rising Star จาก Reply 1988
4th Annual DramaFever Awards สาขา Best Kiss (with Lee Hye-ri) จาก Reply 1988
5th APAN Star Awards สาขา Best New Actor จาก Reply 1988
tvN10 Awards Asia สาขา Star Award จาก Reply 1988
1st Asia Artist Awards สาขา Asia Star Award, Actor
1st Asia Artist Awards สาขา Best Star Award, Actor จาก Reply 1988, Love in the Moonlight
Melodi Awards สาขา Most Influential Korean Drama Personality
OSEN Awards สาขา Star of the Year
SBS Cult Two Show Awards สาขา Most Mentioned
30th KBS Drama Awards สาขา Top Excellence, Actor จาก Love in the Moonlight,สาขา Netizen Award จาก Love in the Moonlight,สาขา Best Couple (with Kim Yoo-jung) จาก Love in the Moonlight
2nd Fashionista Awards สาขา Best Dresser of the Year

ปี 2017
Korea Brand Awards สาขา Special Award
16th Korea Assembly Grand Award สาขา Acting Award
53rd Baeksang Arts Awards สาขา Most Popular Actor, Television จาก Love in the Moonlight
12th Seoul International Drama Awards สาขา Outstanding Korean Actor จาก Love in the Moonlight
8th Korean Popular Culture and Arts Awards สาขา Minister of Culture, Sports and Tourism Commendation
3rd Fashionista Awards สาขา Best Fashionista (Red Carpet Category)
7th Korea Tourism Awards สาขา Special Achievement Award

ครอบครัวLISA
อบอุ่นสุด ๆ เผยภาพครอบครัวให้กำลังใจ “ลิซ่า BLACKPINK” หลังเวทีการแสดงดนตรีที่ประเทศไทย

คุณแม่จิตทิพย์ แม่ของ “ลิซ่า BLACKPINK” โพสต์ภาพครอบครัวไปให้กำลังใจไอดอลสาวหลังเวทีสุดอบอุ่น แฟนคลับและคนภายในวงการแห่คอมเม้นต์สนั่น

ผ่านไปอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับ “BLACKPINK BORN PINK WORLD TOUR Bangkok” ที่สนามกีฬาแห่งชาติ (ศุภชลาศัย)
คอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ของ 4 สาวเกิร์ลกรุ๊ประดับโลก “BLACKPINK” โดย 4 สมาชิก นำโดย ลิซ่า – ลลิษา มโนบาล , จีซู , เจนนี่ รวมทั้ง โรเซ่
ได้เปิดการแสดงถึง 2 รอบ ท่ามกลาง “บลิ๊งค์” (ชื่อเรียกแฟนคลับ) ที่เดินทางมาให้กำลังใจอย่างล้นหลาม

ครอบครัวลิซ่า BLACKPINK

ซึ่งอีกหนึ่งแรงใจสำคัญของสาว ลิซ่า BLACKPINK ต้องยกให้ครอบครัว

และล่าสุด คุณแม่จิตทิพย์ บรอยช์ไวเลอร์
คุณแม่ของลิซ่า ก็ได้โพสต์ภาพครอบครัวแสนอบอุ่นที่แฟนคลับรอคอยลงในไอจีส่วนตัว โดยเป็นภาพที่คุณแม่และก็คุณบิดา มาร์โค บรูชไวเลอร์ ไปให้กำลังใจลูกสาวหลังเวที

ทั้งยังยังพาคุณยายสุดที่รักของ LISA ไปให้กำลังใจหลานสาวคนเก่งด้วย งานนี้ ลิซ่า ไม่พลาดถ่ายภาพคู่คุณยายอย่างอบอุ่น

นอกเหนือจากนั้น คุณแม่ของLISA ยังเขียนแคปชั่นว่า “ขอบคุณมากครับ” โดยมีเหล่าคนคนบันเทิงรวมทั้งแฟน ๆ เข้าไปชื่นชมกันเป็นจำนวนมาก

ครอบครัวLISA

 

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา คุณแม่ก็ได้โพสต์ภาพบรรยากาศคอนเสิร์ตดังกล่าว
พร้อมเผยถึงแฟน ๆ ของ “BLACKPINK” อย่างอบอุ่นว่า “ขอบคุณ Blink ทุกๆคนที่เป็นที่รักของสาวๆBLACKPINK มากๆนะคะ รัก BLACKPINK รวมทั้งอยู่กับ BLACKPINK ไปนานๆนะคะ

มิว นิษฐา

แม่มิว นิษฐา แจงเหตุผลที่ลูกสาวถ่ายภาพกับ ลิซ่า BLACKPINK หลังโพสต์ภาพคู่

จบลงไปท่ามกลางความฟินของแฟนคลับสำหรับคอนเสิร์ต “BLACKPINK WORLD TOUR BORN PINK BANGKOK” ของ 4 สาววง BLACKPINK ที่สนามศุภชลาศัย ปทุมวัน
เมื่อ 7-8 เดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งในคอนเสิร์ตครั้งนี้มีนักแสดงดาราไทยไปร่วมดูเป็นจำนวนมาก

หนึ่งในนั้นคือนางเอกสาวหน้าใส มิว นิษฐา จิรยั่งยืน ที่นอกเหนือจากการที่จะได้ไปดูคอนเสิร์ตแล้ว ยังได้มีโอกาสเข้าไปมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจนักร้องสาวLISA ลลิษา มโนบาล หรือ LISA BLACKPINK ซึ่งมิวก็ได้โพสต์ภาพบรรยากาศ รวมถึงภาพ น้องมาริน ลูกสาว พร้อมด้วยเขียนใจความว่า “Blink ตัวน้อยที่บ้านก็อยากไปดูด้วย @marin_kuha”

แต่ก็มีหลาย ๆ คนสงสัยว่าเพราะเหตุไรมิวถึงได้เข้าไปถ่ายรูปคู่รวมทั้งมอบดอกไม้ให้กำลังใจLISAซึ่งงานนี้ คุณแม่ปู อังคณา จิรยั่งยืน คุณแม่ของสาวมิว ก็ได้คอมเมนต์ชี้แจงใต้ภาพดังกล่าวแทนลูกสาวไว้ว่า
“น้องลิซ่าชวนพี่มิวไปดูคอนเสิร์ตค่ะ รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่มิวมีซื้อตั๋วไว้แล้วเลยเอาดอกไม้ไปให้กำลังใจน้อง” เรียกว่าสะสางชัดเจนแบบม้วนเดียวจบจ้า

สวยแพงไม่ธรรมดา ส่องลุคออกอีเวนต์ “ลิซ่า” ไม่ต่ำกว่า 4 ล้าน!

ทำเอาชาวบลิ๊งค์ใจละลาย หลังจาก “LISA Blackpink” หรือ “ลลิษา มโนบาล” หยอดว่าขอแก่ไปด้วยกัน และก็ดีใจมากที่ได้กลับเมืองไทย
ซึ่งหากย้อนไปดูวันออกวีเวนต์ DENTISTE Presents Confident Smile with Lisa ณ รอยัลพารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน
ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ เมื่อวานนี้ นอกเหนือจากแจกรอยยิ้มละลายใจแฟนคลับแล้ว ชุดที่เจ้าตัวใส่ ถึงแม้ว่าจะดูเรียบหรู แต่แพงไม่เบา

ลิซ่า BLACKPINK

 

 

โดยชุดสีครีม มาจากแบรนด์ CANITT ราคาประมาณ 21,000 บาท รองเท้าจากแบรนด์ AMINA MUADDI 995$ รวมทั้งเครื่องประดับสุดหรูหราจากแบรนด์ BVLGARI 121,400 $ รวม ๆ แล้วตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าลุคนี้ไม่ต่ำกว่า 4 ล้านบาท เรียกได้ว่าสวยแพงสมเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก

นักแสดง
นักแสดง ที่แจ้งเกิดจากเว็บดราม่าเกาหลีสู่ดาวรุ่งของวงการบันเทิง

นักแสดง ที่มีชื่อผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อย ในปัจจุบันมีเรื่องราวที่น่าสนใจ
ของการ ก้าวขึ้นสู่การ มีชื่อเสียง แล้วก็เป็นดาวรุ่ง ของ วงการบันเทิง
โดยจุดกำเนิดของ ความสำเร็จพวกนั้น ได้มาจากเว็บดราม่า ยอดนิยม ที่นำนักแสดงคนโปรด ของพวกเรามา เผยแพร่ บน Youtube
และก็แพลตฟอร์ม สตรีมมิ่ง ต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของการก้าวขึ้นสู่การเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงของวงการเลยก็ว่าได้
รวมไปถึงนักแสดงชั้นนำอีกทั้ง 5 คนนี้ที่ผ่านการแสดงบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งแล้วก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม
มาจากเว็บดราม่าประเทศเกาหลีเช่นกัน

เว็บดราม่าประเทศเกาหลี เป็นซีรีส์ขนาดสั้นที่มีระยะออกอากาศต่อตอนอยู่ระหว่าง 10-30 นาที
เป็นซีรีส์ที่ไม่ได้ฉายทางโทรทัศน์ทั่ว ๆ ไป แต่จะอัปโหลดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ทางอินเทอร์เน็ต
ซึ่งจะมีลักษณะการดำเนินเรื่องที่กระชับ ฉับไว กระบวนการโปรดักชันสั้น และก็มีต้นทุนการผลิตน้อยกว่าที่ออกอากาศทางโทรทัศน์

วันนี้ทีมข่าวเราจะพาเพื่อน ๆ ไปย้อนรอยกับเหล่านักแสดงที่แจ้งเกิดจากผลงานการแสดงในเว็บดราม่า รวมทั้งได้รับความสนใจ
จนกระทั่งตอนนี้ต่างเป็นที่รู้จักในวงการบันเทิง รวมทั้งมีผลงานการแสดงทางโทรทัศน์ให้ได้ชมมากมาย~

จะมี นักแสดง คนโปรดของเพื่อน ๆ คนไหนกันบ้างไปติดตามกันเลย

ชินเยอึน

1. ชินเยอึน
ชินเยอึน ได้ฉายแววจากเว็บดราม่าอย่าง A-TEEN ซีรีส์ที่บรรยายเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนผู้เรียนมัธยมปลายกับตอนเวลาที่ต้องเตรียมความพร้อมเข้ามหาวิทยาลัย ความฝัน ความรักและมิตรภาพที่เกิดขึ้นในตอนวัยรุ่น ซึ่งหลังจากเผยแพร่ออกมาบนโลกอินเตอร์เน็ตก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม
กระทั่งทำเกิดการสร้าง A-TEEN 2 และก็จากความนิยมที่มากขึ้นของ ชินเยอึน ในบท โดฮานา แล้วยังเป็นตัวเปิดช่องให้เธอได้ก้าวเข้าสู่การเป็นนางเอกในเรื่อง He Is Psychometric แล้วก็ More Than Friends ทางช่องทีวีอีกด้วย

ฮวังอินยอบ

2. ฮวังอินยอบ
ชายหนุ่มขี้อาย ฮวังอินยอบ เปิดตัวเดบิวต์หนแรกในบทบาท กิแจยอง ในเว็บดราม่าเรื่อง W.H.Y เป็นเรื่องราวความรักของชายหนุ่มสาวที่ล้มเหลว
ถูกหักอกจนเกิดเป็นทริปของเหล่าเพื่อนสนิท พากันมาย้อมใจ แต่ก็ทำให้พวกเขาเข้าใจความรักมากเพิ่มขึ้น ซึ่งหลังจากซีรีส์เรื่องนี้ฮวังอินยอบได้ตัดสินใจรับบทบาทหลักในเว็บดราม่าเรื่อง Freshman ในบท ซอคโยวอน หนุ่มฮอตของมหาวิทยาลัยกับหนุ่มสุดเฉิ่มที่ต้องมาอยู่ในชมรมการแสดงที่ขึ้นชื่อว่าเห่ยที่สุดในมหาวิทยาลัย เห็นได้ชัดว่าจากจุดเริ่มต้นการแสดงบนเว็บดราม่าทำให้เขาได้ก้าวเข้ามาเป็นนักแสดงหลักทางหน้าจอโทรทัศน์รวมทั้งเป็นที่รู้จักมากขึ้นในบทบาทการแสดงจากเรื่อง 18 Again, True Beauty และ Why Her?

คิมฮเยยุน

3. นักแสดง คิมฮเยยุน

นักแสดงสาวมากความสามารถอย่าง คิมฮเยยุน ก็เป็นอีกคนที่เคยผ่านการแสดงบนเว็บดราม่ามาแล้วกับซีรีส์เรื่อง Secret Crushes ในปี 2016 ซึ่งเธอได้ร่วมแสดงอีกทั้ง 2 ซีซั่น
โดยซีรีส์เรื่องนี้จะมุ่งเน้นไปที่เรื่องราวของชายหนุ่มสาวกับความรักที่ไม่สมหวังรวมทั้งบทเรียนในการดำเนินชีวิต แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่สามารถทำให้คิมฮเยยุนกลายเป็นที่จำได้มากเท่าไหร่นัก แต่ก็นับว่าเป็นใบเบิกทางให้เธอได้ก้าวเข้าสู่การเป็นนักแสดงในเรื่อง SKY Castle กับบท คังเยซอ เด็กสาววัยมัธยมปลายที่เต็มไปด้วยความทะยานอยาก
และไม่เป็นมิตร ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ทำให้คุณได้กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นจนถึงได้รับรางวัลนักแสดงหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม Beaksang Arts Awards ครั้งที่ 55 ไปครอง
แล้วก็ต่อมาเธอก็ได้รับบทนักแสดงนำในเรื่อง Extraordinary You, Secret Royal Inspector & Joy แล้วก็ Snowdrop อีกด้วย

นักแสดง แบฮยอนซอง

4. แบฮยอนซอง
มาถึงคิวหนุ่มหน้าหวาน แบฮยอนซอง ก็ได้ผ่านผลงานจากการร่วมแสดงในเว็บดราม่ายอดนิยมอย่าง Love Playlist โปรเจคจาก Playlist Studio
ที่เล่าเรื่องราวความรักรวมทั้งความเกี่ยวข้องของเหล่าวัยรุ่น โดยในเรื่องนี้ แบฮยอนซอง มากับบทบาท พัคฮานึล ในซีซั่น 3 แล้วก็ 4 กับคาแรกเตอร์ชายหนุ่มที่แอบรักเพื่อน
โดยการแสดงที่แสนจะอบอุ่นทำให้เขาเป็นที่จับตามากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นเขาก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การแสดง
จากการร่วมแสดงในเรื่อง Extraordinary You กับบท แบคจุนฮยอน น้องชายของ แบคคยอง (รับบทโดยอีแจอุค) แล้วก็ซีรีส์ภาคต่อมีชื่อเสียงอย่าง Hospital Playlist กับบท จางฮงโด นักศึกษาแพทย์ที่เต็มไปด้วยความน่าเอ็นดู รวมทั้งใช้ชีวิตแบบทุกย่างก้าวเป็นการศึกษา บทบาทถัดมาที่ถือเป็นเรื่องที่เขาได้ปล่อยศักยภาพทางการแสดงออกมาได้อย่างเต็มที่ กับการรับบทนำในเรื่องราวดราม่ารวมทั้งโจทย์ชีวิตของ จองฮยอน จากซีรีส์เรื่อง Our Blues ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมไว้อย่างล้นหลาม

ชเวฮยอนอุค

5. ชเวฮยอนอุค

สำหรับคนสุดท้ายนี้ไม่พูดถึงอาจไม่ได้เลยกับนักแสดงดาวรุ่งอย่าง ชเวฮยอนอุค เขาได้เดบิวต์ในฐานะนักแสดงด้วยการชิมลางบทพระเอกในเว็บดราม่าเรื่อง Real:Time:Love
ที่พูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับรักวัยรุ่นของเด็กมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยเขาได้รับบทเป็น มุนเยซาน เด็กหนุ่มที่แอบชอบเพื่อนสนิทมายาวนาน
รวมทั้งได้ได้โอกาสเป็นแฟนจอมปลอมหลังจากฝ่ายหญิงถูกบอกเลิก ซึ่งแม้จะเป็นผลงานเรื่องแรก
แต่เขาก็ทำได้ดีเกินคาดจนกระทั่งมีโอกาสได้เล่นซีรีส์เรื่องนี้ยาวถึง 4 ซีซั่น หลังแล้วหลังจากนั้นเขาก็พัฒนาความสามารถตัวเองเรื่อยมา
รวมทั้งได้แสดงในผลงานเว็บดราม่าอีกทีในผลงานเรื่อง Pop Out Boy! ก่อนที่จะฉีกกรอบชายหนุ่มน่ารักมาเป็นบท พัคซึงแท หัวหน้าเด็กเกรียนที่ชอบกลั่นแกล้งเพื่อนร่วมชั้นจากซีรีส์เรื่อง Taxi Driver ซึ่งก็ทำให้เขาได้รับการเฝ้าดูเป็นอย่างมาก รวมทั้งทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้น

ส่วนผลงานที่เป็นที่เป็นที่พูดถึงและก็ประทับจิตประทับใจผู้ชมเป็นอย่างมากก็น่าจะเป็นผลงานในเรื่อง Twenty Five Twenty One กับบทเด็กวัยรุ่นมัธยมศึกษาตอนปลายที่ใครต่อใครต่างเรียกขานกันว่า เจ้าน่ารักน่าเอ็นดูห้องเจ็ด ด้วยหน้าตารวมทั้งท่าทางที่สนุกทำให้ใครคนจำนวนไม่น้อยโดนตกจนต้องไปตามดูผลงานเก่า ๆ ของชเวฮยอนอุคกันเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามเว็บดราม่านับว่าเป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่แจ้งเกิดของนักแสดงหน้าใหม่ให้ได้โชว์ศักยภาพทางการแสดง
แล้วก็เป็นใบเบิกทางของการก้าวขึ้นสู่นักแสดงที่มีชื่อในวงการบันเทิงเลยก็ว่าได้

ข่าวใหญ่
ที่สุดแห่งปี ข่าวนี้เรื่องใหญ่ รวมเหตุการณ์เขย่าวงการบันเทิงไทย 2022

มีเรื่องราวให้ อึ้ง! ทึ่ง! ช็อก! แล้วก็ เซอร์ไพรส์! ได้ตลอดทั้งปี 2022 จริง ๆ สำหรับวงการซุปตาร์ ประเทศไทย ข่าวใหญ่
ซึ่งวันนี้ ทีมข่าวบันเทิง มีโอกาสดีรวบรวมเอา ข่าวสารเด็ด โมเมนต์ดัง ที่สร้างปรากฎการณ์ สุดฮือฮามา ให้แฟนคลับได้ย้อนรอย กันอีกครั้ง
โดยจะเป็นเรื่องราว ของซุปตาร์คนไหนและมีข่าวคราว อะไรบ้างนั้น ตกลงว่าเราไปเช็กพร้อมเพียงกันเลย ดีกว่า

ข่าวใหญ่ ยอร์ช ยงศิลป์

ข่าวใหญ่ เปิดเผยแล้ว! “ยอร์ช ยงศิลป์” สมาชิกลับกลุ่มเด็กฝึก Trainee A ค่าย BIGHIT

จากนักแสดงเด็ก สู่สถานะว่า ที่ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก ยอร์ช-ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์
หรือที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยรู้จักกันในชื่อ วันเฉลิม จากละครดราม่า เข้มข้น ทองเนื้อเก้า (2556)
ซึ่งในปีนี้เจ้าตัวได้ ทำให้มอบความสบายให้กับคนไทย ครั้งใหญ่ด้วยการปรากฎตัวเป็น 1 ในสมาชิกลับ กลุ่มเด็กฝึกฝน Trainee A ค่าย BigHit
พร้อมกับโชว์ความสามารถ ทั้งยังร้อง ทั้งยังเต้น ขึ้นแท่นเป็นชายหนุ่มฮอตแห่งปีที่แฟน ๆ ทั้งโลกต่างก็จับตามอง

ข่าวใหญ่ ดิว อริสรา

ประมวลภาพ งานเลี้ยงประกาศตั้งครรภ์ “ดิว อริสรา” หวานปนซึ้ง สุขหัวใจจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่

บ่มเพาะความหวานมานานนับเป็นเวลาหลายปี จนถึงในที่สุด ก็ได้มีโมเมนต์เซอรไพรส์ ขอแต่งงาน สุดโรแมนติก
สำหรับ ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ กับไฮโซหนุ่ม เซบาสเตียน ลี รวมทั้งในปีนี้ทั้งคู่ก็ได้มอบข่าวดีครั้งใหม่ให้แฟนคลับได้ร่วมแสดงความรู้สึกชื่นชมยินดี
นั่นก็คือข่าวการตั้งท้องลูกชายคนแรก กระทั่งวันที่ 12 สิงหาคม 2565 น้องไซลาส เอซร่า ลี ก็ได้ลืมตาดูโลก ซึ่งทำเอา คุณพ่อเซบาสเตียน แล้วก็ คุณแม่ดิว อีกทั้งรักทั้งหลงหนักมากเลยทีเดียว

เวียร์ ศุกลวัฒน์

“เวียร์ ศุกลวัฒน์” ยิ้มแป้น ควงที่รัก “วิกกี้” จดทะเบียนสมรสสุดหวาน

จากพระเอกซุปตาร์ สู่สถานะคุณสามี แล้วก็ว่าที่คุณพ่อ สำหรับ เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ ที่ในปีนี้เจ้าตัวได้ทำเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่
ให้แฟนคลับร้องเฮดัง ๆ ด้วยการประกาศสละไม่มีแฟนรวมทั้งเข้าพิธีการแต่งงานแบบเรียบง่ายกับ วิกกี้-พีมนต์ญา เวธน์ปริวัฒน์ แฟนสาวนอกวงการ
ก่อนจะตอกย้ำซ้ำเติมชีวิตของการการเป็นสามีภรรยาหวานฉ่ำ ให้แฟน ๆ ได้ร่วมยินดีกันอีกครั้ง ด้วยการแนะนำสมาชิกใหม่ มันก็คือลูกสาวตัวน้อยในท้องของภรรยาสุดที่รัก
เรียกได้ว่าเป็นปีทองของ เวียร์ ศุกลวัฒน์ จริง ๆ เพราะเหตุว่าไม่ใช่แค่รุ่งด้านการทำงานเท่านั้น แต่ในโหมดชีวิตส่วนตัว ครอบครัว และก็ความรัก ก็ยังเด่นน่าเอ็นดูไม่แพ้คู่อื่น ๆ เลย

JSL

JSL ประกาศยุติการจัดการบางส่วน บนทาง 43 ปี

นับเป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่ที่ไม่ใช่ช็อกแค่กับคนในวงการบันเทิงเท่านั้น
แต่สำหรับแฟน ๆ ที่ติดตามผลงานมาตลอดก็ยังอดที่จะรู้สึกตกใจไม่ได้เช่นเดียวกัน
สำหรับกรณีที่ บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ได้ร่อนประกาศการยุติการจัดการบางส่วน บนทาง 43 ปี
โดยกล่าวว่า บริษัทดำเนินงานด้านการผลิตสื่อสำหรับโทรทัศน์ การสร้างบุคลากรสำหรับวงการบันเทิงทั้งยังเบื้องหน้ารวมทั้งเบื้องหลัง
การรับจ้างสร้างสรรค์และผลิตงานสำหรับภาครัฐและก็เอกชน ติดต่อมาเป็นระยะเวลา 43 ปี แต่ในช่วง 8 ปีทาง JSL
ปรับตัวสู้กับการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ประสบความสำเร็จก็เลยต้องประกาศยุติผลิตรายการโทรทัศน์ ซึ่งส่งผลในวันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป

MILLI
ข่าวใหญ่ MILLI โชว์กินข้าวเหนียวมะม่วง แร็ปเดือด 6 นาทีรวดบนเวที Coachella 2022

ทั้งยังสวย อีกทั้งเก่ง อีกทั้งความสามารถแล้วก็ความสามารถก็ยังเป็นที่ยอมรับในวงการเพลงระดับโลก
สำหรับ มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล แรปเปอร์ซุปตาร์ เจ้าของเพลงฮิต สุดปัง, พักก่อน, Welcome อื่น ๆ อีกมากมาย
ที่ในปีนี้เจ้าตัวได้ได้โอกาสขนเอาดนตรีไทย วัฒนธรรมไทย โดยยิ่งไปกว่านั้นอย่างยิ่งอาหารไทย อย่างเมนู ข้าวเหนียวมะม่วง ขึ้นไปกินโชว์อวดสายตาแฟนเพลงบนเวทีการแสดงดนตรีระดับโลก Coachella 2022 จนกระทั่งส่งผลให้ชื่อของ มิลลิ ติดอันดับแฮชแท็กบนโลกโซเชียลฯ
อยู่นานนับสัปดาห์ แถมยังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมทั้งกลายเป็น 1 ในซอฟต์พาวเวอร์ครั้งสำคัญของปี 2565

ซงจุงกิ
สัมภาษณ์พิเศษ ‘ซงจุงกิ’ ในวันที่พา ‘Reborn Rich’ ขึ้นแท่นซีรีส์เรตติ้งสูงสุดในปี 2022

Reborn Rich เป็นซีรีส์ประเทศเกาหลีผลงานปัจจุบันของ ซงจุงกิ ที่เป็นที่ตั้งตารอรอของแฟนคลับมายาวนาน
แล้วก็เมื่อได้ออกฉายในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี ก็ได้กระแสตอบรับถล่มทลาย และยิ่งเป็นที่พูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก ๆ ตอนที่ออกอากาศ
กล่าวถึงเรื่องราวของ ยุนฮยอนอู ชายที่เคยเป็นคนที่ทำงานรับใช้ตระกูลแชบอลอย่างภักดี และสุดท้ายถูกฆ่าตายอย่างไร้เยื่อใย
ได้เกิดใหม่เป็น จินโดจุน หลานชายคนสุดท้องของตระกูลแชบอล และก็พยายามจะหาคำตอบว่าใครเป็นคนที่ฆ่าเขา
ล่าสุดซีรีส์ทำเรตติ้งพุ่ง ก้าวขึ้นเป็นซีรีส์เกาหลีที่ทำเรตติ้งสูงที่สุดในปี 2022 และก็ดูมีลัษณะทิศทางที่จะสร้างสถิติใหม่อย่างตลอดจวบจนกระทั่งจะถึงบทสรุปของเรื่อง

ความฮอตของซีรีส์เรื่องนี้ เป็นที่มาของการจัดงานแถลงข่าว “Reborn Rich Exclusive Press Conference with Song Joong Ki”
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา ณ Resorts World Sentosa ประเทศสิงคโปร์

Reborn Rich

อะไรที่ทำให้ ซงจุงกิ ตัดสินใจแสดงซีรีส์เรื่องนี้

“เหตุผลแรกเลยคือ นักเขียนบท ครับ ผมไว้ใจเธอ แล้วก็ ผมไว้ใจการเขียนบทของเธอครับ แล้วก็ผมเคยร่วมงานกับเธอมาก่อนแล้วหนึ่งเรื่องคือ “Sungkyunkwan Scandal” ครับ ดังนั้นผมไว้ใจเธอ รวมทั้งอย่างที่สองเป็น การมีนักแสดงอีซองมินเป็นนักแสดงในซีรีส์ครับ ซึ่งผมได้บอกไปก่อนหน้านี้แล้วในงานแถลงข่าว และอีกอย่างเลยก็เป็นผมรู้สึกว่าผมชอบเนื้อเรื่องแนวนี้นะครับ ผมชอบ Reborn Rich ตรงที่มันไม่ใช่การชำระแค้นแบบทั่ว ๆ ไป ผมไม่ได้โฟกัสที่การเกิดใหม่ (Reborn) เลยครับ ผมโฟกัสเกี่ยวกับความเป็นครอบครัวครับ

จินโดจุน ตัวละครของผมสนใจเกี่ยวกับการทำอย่างไรให้ครอบครัวที่สุขสบาย ผมเลยโฟกัสกับสิ่งนี้ครับ ผมว่าผมถูกใจเกี่ยวกับเรื่องราวของมนุษย์ครอบครัวครับ อย่างดังเช่นว่า ภาพยนตร์เรื่องโปรดของผมคือ Legends of the Fall ซึ่งทำให้เราได้รู้สึกถึงอารมณ์ต่าง ๆ มากมาย ทั้งความอิจฉา ความทะเยอทะยาน ความรัก รวมทั้งการแข่งขันแย่งชิงกันภายในครอบครัวในภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ หรืออย่างดังเช่นว่าเวลานี้ผมกำลังดูเรื่องซีรีส์ The Crown ใน Netflix ครับ ซึ่งเป็นซีรีส์ฝั่ง British น่ะครับ อย่างไรก็ตามจะแบบไหนก็เป็นชนิดหนึ่งของความเป็นครอบครัวครับ ซึ่งผมมีความคิดว่าผมชอบรายละเอียดแนวนี้ครับ ซึ่งเมื่อผมได้อ่านบทเรื่องนี้ในครั้งแรก ผมชอบกับเรื่องราวพวกนี้หลายส่วนเลยครับซึ่งไม่เกี่ยวกับการเกิดใหม่เลย คือการเกิดใหม่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องน่าสนใจนะครับ ด้วยเหตุว่ามันเพิ่มความเป็นแฟนตาซีเข้าไป”

คุณความเห็นอย่างไรที่บทบาทนี้ทำคนไม่ใช่น้อยคิดถึง คังมารู ในซีรีส์ Innocent Man

“จริง ๆ แล้วมีนักข่าวท่านหนึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ให้ผมเปรียบเทียบบทบาทของคังมารูจาก Innocent Man กับ จินโดจุน ถึงความคล้ายและความแตกต่าง อะไรแบบนี้เช่นกันครับ ผมไม่คิดแบบนั้นนะครับ ผมคิดว่าบางคนจุดโฟกัสที่ตัวละครจาก Innocent Man คังมารู เปลี่ยนไปมากมายด้วยเหตุว่าต้องการแก้แค้น และจินโดจุนก็เปลี่ยนแปลงไปมากมายเนื่องจากต้องการเอาคืนด้วยเหมือนกัน ซึ่งผมมีความรู้สึกว่านี่น่าจะเป็นเรื่องที่คล้ายกันครับ แต่ถ้าหากพูดถึงเนื้อหาที่มากขึ้น เอาให้เฉพาะ มันแตกต่างกันมากเลยครับ ผมมีความรู้สึกว่ามันมีความแตกต่างมาก

แน่นอนครับเรื่องที่เหมือนกันคือ ความต้องการแก้แค้น แต่ว่า คังมารู มีความต้องการแก้แค้นที่เริ่มต้นจากเพียงแค่เรื่องเกี่ยวกับความรักครับ ซึ่งความรักที่เกี่ยวข้องไปถึงผู้หญิงคนหนึ่ง ในขณะที่ จินโดจุน จาก Reborn Rich ความต้องการแก้แค้นของเขามันใหญ่และกว้างกว่านั้นครับ ผมคิดแบบนั้นเพราะคอนเซ็ปต์มันใหญ่กว่าเนื่องจากมันไปเกี่ยวข้องกับความเป็นครอบครัว เกี่ยวข้องกับสังคม และยังเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ของเกาหลีจริง ๆ ด้วยครับ ใหญ่กว่ามากเลย เพราะฉะนั้น ถ้าเทียบความแค้นของคังมารูเป็นเรื่องส่วนตัว ความแค้นของจินโดจุนจะเป็นประเภทที่ใหญ่กว่านั้นมากครับโดยกลายเป็นเรื่องของทั้งครอบครัวไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ผมคิดแบบนั้นนะ ขอบคุณสำหรับคำถามดี ๆ ครับ”

ซงจุงกิReborn Rich

ซงจุงกิ ได้บทเรียนอะไรจากการแสดงเป็น ยุนฮยอนอู รวมทั้ง จินโดจุน ในซีรีส์เรื่องนี้

“แน่นอนครับ ทุกโปรเจกต์ผมได้ทำความเข้าใจเรื่องต่าง ๆ มากมายครับ ตั้งแต่ใหญ่จนถึงเล็กเลย
สำหรับโปรเจกต์นี้ ผมก็ได้ศึกษาและบางทีด้วยเหตุว่าการร่วมโปรเจกต์นี้แหละครับ
ที่ทำให้ผมได้รู้ว่า หลักความคิดความเชื่อของผมมันถูกต้องจริง ๆ ผมได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งนี้
ผมหมายถึง เมื่อผมได้แสดงบทบาทในโปรเจกต์นี้ ผมได้มองเห็นความขัดแย้งมากมายภายในครอบครัว ถูกไหมครับ?
และในโลกความเป็นจริง ก็มีความขัดแย้งแบบนี้มากมายภายในครอบครัวจากเรื่องเกี่ยวกับเงินด้วยเหมือนกัน
ผมล่ะโคตรเกลียดมันมาก ๆ เลย ดังนั้นผมได้ศึกษาอีกรอบ เงินมันไม่มีค่าอะไรเลย รวมทั้งครอบครัวต้องมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ผมเรียนรู้ครับ
…ว้าว จุงกิ…ความนึกคิดของนายมันถูกนะ นี่แหละผมได้ศึกษามันอีกครั้ง ต้องขอบคุณโปรเจกต์นี้เลยครับ

ผมเคยมั่นใจ เดี๋ยวนี้ผมก็มั่นใจ และก็ในอนาคตผมก็จะมั่นใจในความนึกคิดนี้ หรือบางทีอาจเกิดขึ้นจากผมมีความคิดแบบนี้ โชคดีที่มีพี่ชายคอยสอนผม เขาสอนผมแบบนี้เสมอๆครับ
เขาบอกแบบนี้กับผมประจำเลยครับ พี่ผมอายุมากกว่าผมแค่ 2 ปีเอง แต่พี่ผมเป็นเสมือนคุณครูเลยล่ะ เขาเป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวของผมเลย แล้วก็ผมรู้สึกว่าผมได้เรียนรู้จริง ๆ ว่านี่แหละคือความคิดที่ถูกต้อง ต้องขอบคุณซีรีส์ Reborn Rich เลยครับ Let’s Don’t Fight”

ช่วยอธิบายเสน่ห์ของตัวละครหน่อยได้ไหมว่าเป็นอย่างไร

“มีหลายอย่างมากเลยครับที่เป็นเสน่ห์ของตัวละคร แน่นอนครับ เป็นผมไม่ได้จุดโฟกัสเพียงการกลับมาเกิดใหม่ แต่นี่ก็เป็นหนึ่งในเสน่ห์ของตัวละครนี้ครับ
เนื่องจากว่ามันก็อย่างกับการเป็นซุปเปอร์ฮีโร่(มีพลังพิเศษ) ใช่ไหมครับ

เพราะว่าผมรู้อนาคตของทุกอย่างเลยครับ ใครจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปเอย บริษัทไหนจะประสบความสำเร็จเอย อาทิเช่น Amazon , Google หรือบริษัทไหนจะเจ๊งกันบ้าง รวมทั้งยังรู้เพราะปีไหนที่จะเริ่มเกิดเรื่องราวพวกนั้น ผมรู้ทั้งหมดเลยครับ ถึงแม้กระทั่งธุรกิจอะไรจะรุ่งจะหล่นตอนไหน ผมทราบหมด นี่คือสิ่งที่น่าสนใจมาก ๆ มีเสน่ห์มาก ๆ ครับ

ผมรู้สึกว่า ความสามารถของโดจุน และก็แรงบันดาลใจในการแก้แคนของเขามันใหญ่มากและก็ถูกต้องครับ
นี่คือความนึกคิดของผม ผมชอบในเป้าหมายของการแก้เผ็ดของเขานะครับ โดยเหตุนี้ผมรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่เป็นเสน่ห์ที่สุดครับ”

รู้สึกอย่างไรที่บทในซีรีส์เรื่องนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มากมาย

“บอกตามตรง ผมว่ามันน่าสนใจมากครับ ด้วยความที่มันเป็นบทในเชิงพาณิชย์ อย่างสองคือผมรู้สึกงงงวยที่เราใช้เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์มากมายของประเทศเกาหลี ซึ่งในเวลานั้นผมรู้สึกงงเต็กว่าพวกเราสามารถใช้เรื่องพวกนี้ได้ในเชิงพาณิชย์แบบนี้จริง ๆ เหรอ

เนื้อเรื่องดี เนื้อเรื่องน่าสนใจเลยครับ ซึ่งพวกเราสามารถใช้เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ เพื่อผลงานซีรีส์เชิงพาณิชย์แบบนี้ได้เหรอ พวกเราใช้ได้เหรอ…ผมคิดแบบนี้เลยครับตอนนั้น พวกเราใช้เรื่องที่เกิดขึ้นจริงได้เหรอ เพราะอาจมีบางคนที่ได้รับผลกระทบจริง ๆ จากเรื่องราวเหล่านี้ บอกตามตรง ผมสับสนมากครับในตอนนั้น เพราะฉะนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะแสดงด้วยความเจ็บปวดจากภายในที่แท้จริงครับ มันก็ใช่แหละครับผมต้องทำ และนั่นคือทัศนคติที่เหมาะสมครับในความเป็นมนุษย์ครับ”

ช่วยบอก 3 คีย์เวิร์ดที่อธิบายความเป็นซีรีส์ Reborn Rich หน่อยได้ไหมคะ

“คีย์เวิร์ดเหรอครับ….ว้าวว ได้เลยครับ อย่างแรกเลยคือ ‘ครอบครัว’ ครับ เพราะว่าครอบครัว คือ สิ่งกระตุ้นในการแก้แค้นของจินโดจุนครับ และอย่างที่สอง คือ ‘การเกิดใหม่’ ครับ พวกเราใช่พลังวิเศษแบบซุปเปอร์ฮีโร่นี้ในการแก้แค้นของโดจุนครับ

และอย่างที่สามคือ ‘คุณอี’ (อีซองมิน) ครับ ในเกาหลี พวกเราเรียกว่า Bromance เคมีที่เข้ากันของ 2 ตัวละครชายครับ และผมชอบความเป็น Bromance ระหว่างคุณปู่และหลานของเขาครับ เพราะมันมีความหลากหลายอารมณ์ ทั้งความแค้น ความทะเยอทะยาน ความอิจฉา รวมถึงเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางสายเลือด และใช่ครับ หลายอย่างเลย ซึ่งพวกนี้แหละครับเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดให้ได้แสดงออกมามาก ๆ และมันหมายถึงความยากในการแสดงออกมาด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม คุณอีซองมินกับผมร่วมกันทำผลงานออกมาได้ดีมาก ๆ ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าดีหรือไม่หรอกนะ ยังไงก็ตาม เราร่วมมือกัน และผมรักเขามาก ชอบเขามาก ผมนับถือเขามากในฐานะของมนุษย์คนหนึ่งและในฐานะของนักแสดงคนหนึ่ง และผมยังสามารถได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมายจากเขาเช่นกัน ผมคิดว่าผมเป็นนักแสดงที่โชคดีที่สุดคนหนึ่งครับ เพราะว่าในเจนของผม ในช่วงชีวิตของผม ผมสามารถได้เจอเขาในฐานะนักแสดงและในฐานะคนทั่วไปด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นในครั้งนี้สำหรับผม คุณอีซองมิน เป็นแรงบันดาลใจชั้นดีสำหรับนักแสดงรุ่นเยาว์ทุกคน และแน่นอนครับ ผมอยากเป็นนักแสดงที่ดีแบบเขามากยิ่งขึ้นไปอีก นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกโชคดีที่สุดของผมเลยก็ว่าได้ และใช่ครับ ผมบอกว่า เขาคือ คีย์เวิร์ดที่ 3 แต่เอาจริง ๆ แล้วผมคิดว่าเขานั่นแหละเป็นคีย์เวิร์ดอันดับแรกเลย”